บิตกลาส (Bitglass) ผู้นำการบริการระบบรักษาความมั่นคงปลอดภัย (Security Service Edge (SSE)) ได้ประกาศในวันนี้ว่า บริษัทได้ขยายตลาดในประเทศไทย       ซึ่งถือได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของการขยายตลาดในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิกและญี่ปุ่นให้มากขึ้น  ทั้งนี้ได้แต่งตั้ง นายปัน ก๊อก (พีเค) ลิม เป็นรองประธานฝ่ายขายประจำภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิกและญี่ปุ่น เพื่อตอกย้ำ      กลยุทธ์ของบริษัทฯ ในการสรรหาบุคลากรที่มีความสามารถที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรม เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดในตลาด Secure Access Service Edge (SASE) หรือการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่ถูกส่งไปยังปลายทาง ที่กำลังเติบโต

ตลาดต่างประเทศกำลังกลายเป็นองค์ประกอบสำคัญของความสำเร็จของบิตกลาสอย่างรวดเร็ว ด้วยการมีพันธมิตรระดับโลกกว่า 200 ราย ทำให้บริษัทฯ ที่ตั้งอยู่ในซิลิคอนแวลลีย์แห่งนี้ได้ขยายตัวไปทั่วโลก ยอดขายและฐานลูกค้ามากขึ้น  และจากความเป็นผู้นำที่มีประสบการณ์และมีช่องทางการจัดจำหน่ายของนายพีเค ลิม จะช่วยให้บิตกลาส สามารถเติบโตในประเทศไทย พร้อมทั้งขยายความเป็นผู้นำด้านความมั่นคงปลอดภัย และขับเคลื่อนนวัตกรรมในตลาด SASE ที่มีการเติบโตสูงในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก

โจนาธาน แอนเดรเซน ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ บริษัท บิตกลาส  กล่าวว่า "องค์กรต่างๆ ทั่วโลก ต่างเร่งจัดการกับข้อกำหนดการเข้าถึงความปลอดภัยแบบไดนามิกของการทำงานระยะไกลและการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลบนระบบคลาวด์เป็นอันดับแรก และการระบาดครั้งใหญ่ของ       โควิด -19 ทำให้การทำงานระยะไกลกลายเป็นเรื่องปกติ และช่วยเร่งอัตราการแปลงเป็นดิจิทัลอย่างรวดเร็ว”

 “ในประเทศไทย มีการนำอุปกรณ์ส่วนตัว (BYOD) มาใช้ ทำให้เกิดจำนวนการโจมตีบนเครือข่ายองค์กรเพิ่มขึ้นอย่างมากเช่นกัน เนื่องจากแฮกเกอร์ใช้ประโยชน์จากมาตรการรักษาความปลอดภัยที่ล้าสมัยและขาดการมองเห็นแอปพลิเคชันบน BYOD     ดังนั้นองค์กรด้านความมั่นคงปลอดภัยด้านไอทีในประเทศไทยจำเป็นต้องคิดทบทวนใหม่ถึงแนวทางและทรัพยากรของตนใหม่เพื่อรักษาความปลอดภัยด้วยการสื่อสารในทุกรูปแบบระหว่างผู้ใช้ อุปกรณ์ แอป หรือปลายทางของเว็บ”

พีเค ลิม รองประธานฝ่ายขายประจำภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิกและญี่ปุ่น บริษัท บิตกลาส เปิดเผยว่า  “ผมตื่นเต้นที่ได้เข้าร่วมทีมบิตกลาส ซึ่งบิตกลาสมีความแตกต่างอย่างชัดเจนในอุตสาหกรรมด้วยเทคโนโลยี CASB ที่เป็นเอกลักษณ์และแพลตฟอร์ม Secure Web Gateway (SWG) ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ความต้องการโซลูชันด้าน SASE ของเรากำลังเพิ่มขึ้นทั่วเอเชีย แปซิฟิก  และกำลังมองหาการสร้างเครือข่ายพันธมิตรที่เป็นช่องทางอันแข็งแกร่งเพื่อช่วยให้องค์กรต่างๆ เปลี่ยนไปใช้การควบคุมความปลอดภัยต่างๆจากศูนย์กลางเพียงที่เดียว เนื่องจากธุรกิจของไทยต้องการความปลอดภัยขั้นสูง”

บิตกลาสได้เริ่มต้นผลักดันด้านการจัดจำหน่ายด้วยการเป็นพันธมิตรกับบริษัท เอ็นฟอร์ซ ซีเคียว จำกัด (มหาชน) (SET:SECURE) ซึ่งเป็นผู้จัดจำหน่ายที่มีจะมาเพิ่มศักยภาพและมูลค่าในประเทศไทยที่เชี่ยวชาญด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้ที่มีประสบการณ์ด้านช่องทางจำหน่ายและตัวแทนจำหน่ายมากกว่า 15 ปี  ตลอดจนทรัพยากรด้านการขายที่มีประสิทธิภาพในประเทศไทย ความร่วมมือกับเอ็นฟอร์ซ ซีเคียว ทำให้แพลตฟอร์มบิตกลาส โทเทิ่ล คลาวด์ ซีเคียวริตี้ พร้อมสำหรับองค์กรทั้งรัฐบาลและเอกชน ด้วยบริการหลังการขายสูงสุด 24 ชั่วโมงทุกวันไม่เว้นวันหยุด

นอกจากนำเสนอข้อมูลบริษัทฯ และการทำงานขององค์กร ผู้บริหารบิตกลาสยังได้ตอบคำถามสื่อมวลชนเกี่ยวกับสถานการณ์ cyber security ในไทย โดยเฉพาะล่าสุดเมื่อข้อมูลคนไข้ของรพ.แห่งนึง โดยกระทรวงสาธารณะสุขรั่วไหลด้วยว่า  การให้ความสำคัญกับข้อมูลส่วนตัวมีความสำคัญอย่างมาก ยิ่งในเวลาวิกฤตโควิดที่ผู้โจมตีหรือ hacker เล็งเป้าหมายมายังรพ.เนื่องจากรู้ว่าค่าไถ่ผู้ป่วยหรือข้อมูลส่วนตัวมีความสำคัญสูง นอกจากนี้บางที hacker ยังอาจทราบไปถึงฐานะและรายได้ส่วนบุคคลของแต่ละคน เพื่อทำการเรียกเงิน ก็ทำได้ จึงควรดูแลและรักษาให้ดี อย่าคิดว่าไม่มีความจำเป็น

เกี่ยวกับบิตกลาส

แพลตฟอร์มโทเทิล คลาวด์ ซีเคียวริตี้ ของบิตกลาส  (Total Cloud Security) เป็นการบริการความปลอดภัยเดียวที่รวมการเข้าถึงระบบความปลอดภัยบนคลาวด์ของโบรกเกอร์ชั้นนำอย่างGartner-MQ      ซึ่งเป็นเว็บเกตเวย์ที่ปลอดภัยบนอุปกรณ์เพียงแห่งเดียวของโลก และการเข้าถึงเครือข่ายที่ไว้วางใจเป็นศูนย์ (zero trust network) เพื่อรักษาความปลอดภัยจากการโต้ตอบใดๆ     สถาปัตยกรรม แบบ Polyscale แสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมด้านการทำงาน (uptime) ถึง 99.99% และมอบประสิทธิภาพที่ไม่มีใครเทียบได้และความสามารถในการปรับขยายตามเวลาจริงไปยังที่ใดก็ได้ในโลก บริษัทฯ ตั้งอยู่ในซิลิคอนแวลลีย์ซึ่งมีสำนักงานอยู่ทั่วโลก โดยได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนระดับแรก และก่อตั้งขึ้นในปี 2556 โดยทีมผู้มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมที่มีผลงานด้านนวัตกรรมและการดำเนินการที่พิสูจน์แล้ว