22 ก.ค. 2564 958 3

NT ผนึกบางจากฯ พัฒนาศักยภาพธุรกิจผ่านเทคโนโลยี 5G

NT ผนึกบางจากฯ พัฒนาศักยภาพธุรกิจผ่านเทคโนโลยี 5G

NT ผนึกกำลังบางจากฯ ร่วมขับเคลื่อนธุรกิจดิจิทัล นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีต่อยอดพัฒนาสินค้าและเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการหวังเสริมสร้างความแข็งแกร่งและความมั่นคงด้านการสื่อสารและดิจิทัล



นับเป็นการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่สำหรับบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT และบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่ร่วมเป็นพันธมิตรเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจให้สามารถเติบโตในภาวะที่ต้องเผชิญกับการแข่งขันสูง โดย นาวาอากาศเอก สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ กรรมการและรักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT และ ชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้ลงนามร่วมขับเคลื่อนธุรกิจดิจิทัล นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีต่อยอดพัฒนาสินค้าและเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการหวังเสริมสร้างความแข็งแกร่งและความมั่นคงด้านการสื่อสารและดิจิทัลเพื่อสนับสนุนและพัฒนาธุรกิจดิจิทัล ด้วยการนำทรัพยากรที่ทั้งสองฝ่ายมีอยู่มาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรม



สำหรับความร่วมมือดังกล่าว ทาง NT จะนำเทคโนโลยี 5G มาพัฒนาให้สอดคล้องกับรูปแบบการดำเนินธุรกิจของบางจากฯ พร้อมกับนำเทคโนโลยีด้านอื่นๆ มาสนับสนุนให้เกิด Business Model ในรูปแบบต่างๆ อาทิ โครงการวินโนหนี้ การจัดตั้งร้านค้าอินทนิลในพื้นที่ของศูนย์บริการลูกค้า NT ทั่วประเทศ การพัฒนาระบบชำระค่าบริการของร้านค้าอินทนิลให้เป็นจุดรับชำระค่าบริการของ NT อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นต้น


นาวาอากาศเอก สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ กรรมการและรักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT เปิดเผยว่า “NT พร้อมที่จะนำเทคโนโลยี 5G รวมถึงเทคโนโลยีในด้านอื่นๆ อาทิ SD WAN,  Internet Corporate, MPLS, Internet FTTx, CCTV, Cloud และ IoT มาใช้ในการศึกษาและพัฒนาเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนรูปแบบการดำเนินธุรกิจในด้านต่าง ๆ ของบางจากให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยหวังผลให้ความร่วมมือในครั้งนี้สามารถต่อยอดไปสู่การสร้างความแข็งแกร่งและความมั่นคงด้านการสื่อสารและดิจิทัลให้กับทั้งสององค์กรร่วมกันและก่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้ใช้บริการเพิ่มมากขึ้น”


ชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บางจากฯ มีความยินดีที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับ NT ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำในด้านเทคโนโลยีการสื่อสารและดิจิทัล ด้วยศักยภาพของทาง NT ที่จะสามารถนำเทคโนโลยีใหม่ๆ  ได้แก่ 5G Cloud IoT และ AI เข้ามาออกแบบ พัฒนาและผสมผสานให้เกิด solution ที่จะตอบโจทย์ธุรกิจของบางจากฯ อย่างครอบคลุม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการแข่งขัน ตั้งแต่ธุรกิจการกลั่นน้ำมัน การตลาด ไปจนถึงธุรกิจต่างๆ ของบริษัทในกลุ่มบางจากฯ  ซึ่งจากการพัฒนา business model ร่วมกันในธุรกิจรูปแบบต่างๆ ในเบื้องต้น ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถต่อยอดไปสู่การพัฒนาธุรกิจใหม่ๆ ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย เพื่อความยั่งยืนของธุรกิจของทั้งสององค์กรต่อไป


เกี่ยวกับบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน)


บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) (National Telecom Public Company Limited หรือ NT) เกิดจากการควบรวมกิจการระหว่างบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) (CAT) และบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) (TOT) โดยจดทะเบียนในวันที่          7 มกราคม 2564 ซึ่งหลังจากการควบรวมส่งผลให้มีโครงสร้างพื้นฐานครบวงจรมากที่สุด โดยมีระบบโครงข่ายการสื่อสารข้อมูลทั้งภาคพื้นดินและเคเบิลใต้น้ำครอบคลุมการให้บริการทั้งในประเทศและต่างประเทศ อีกทั้งยังมีศูนย์บริการลูกค้าที่สามารถรองรับการให้บริการทั้งกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไปถึง 536 แห่งทั่วประเทศ โดย NT นับเป็นผู้นำด้านการให้บริการ      Data Center อยู่ทั่วประเทศไม่น้อยกว่า 10 แห่ง และบริการ Cloud รวมถึงการให้บริการทางด้านดิจิทัล BigData IoT และเครือข่าย 5G    เพื่อตอบสนองกับความต้องการของธุรกิจปัจจุบันได้อย่างสมบูรณ์แบบ เพื่อก้าวสู่ความเป็นผู้นำในการให้บริการด้านดิจิทัลและโทรคมนาคมของชาติโดยมุ่งเน้นการยกระดับการให้บริการให้ได้มาตรฐานอย่างต่อเนื่องด้วยการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยและนวัตกรรมใหม่ๆ มาเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกภาคส่วน


เกี่ยวกับบางจากฯ


บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กลุ่มธุรกิจผู้นำนวัตกรรมสีเขียวเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน ดำเนินงานใน 5 ธุรกิจหลักคือ 1) กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน เป็นโรงกลั่นแบบ Complex Refinery ที่ทันสมัย 2) กลุ่มธุรกิจการตลาด ช่องทางหลักในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ่านเครือข่ายสถานีบริการของบริษัทฯ กว่า 1,200 แห่ง เสริมด้วยธุรกิจ Non – oil ผ่านธุรกิจต่างๆ เช่นกาแฟอินทนิล น้ำมันหล่อลื่น Furio 3) กลุ่มธุรกิจพลังงานไฟฟ้า ผ่านการดำเนินธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนของบมจ. บีซีพีจี ประกอบด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ลม ความร้อนใต้พิภพและน้ำ ในประเทศไทย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และลาว 4) กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ ดำเนินการภายใต้ บมจ. บีบีจีไอ ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายเชื้อเพลิงชีวภาพที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย 5) กลุ่มธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ ได้แก่ธุรกิจปิโตรเลียม ผ่านการถือหุ้นใน OKEA ASA ผู้พัฒนาและผลิตปิโตรเลียมในประเทศนอร์เวย์ และธุรกิจเหมืองลิเทียม ผ่านการถือหุ้นใน Lithium Americas Corp. (LAC) ผู้ประกอบธุรกิจเหมืองลิเทียมในประเทศอาร์เจนติน่าและสหรัฐอเมริกา



นอกจากนี้ ยังได้จัดตั้งสถาบันนวัตกรรมและบ่มเพาะธุรกิจ (BiiC) เพื่อสร้างระบบนิเวศน์สำหรับนวัตกรรมสีเขียว (Green Ecosystem) ส่งเสริมและผลักดันนวัตกรรมที่สนับสนุนการพัฒนาพลังงานสีเขียวและผลิตภัณฑ์ชีวภาพเพื่อสร้างความมั่นคงและยั่งยืนด้านพลังงานของประเทศ