25 เม.ย. 2564 1,313 2

ปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลก ฉุดการแข่งขันอุตสาหกรรมลดลง

ปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลก ฉุดการแข่งขันอุตสาหกรรมลดลง

การขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลก ทำให้การแข่งขันที่รุนแรงในอุตสาหกรรมเทคโนโลยียิ่งลดลง เรียกว่าวิกฤตแล้ว จะแก้ยังไงดี? ความต้องการที่เพิ่มขึ้น และความตึงเครียดทางการเมือง สร้างความเสียหายให้กับห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก (Supply chain)

ผู้ก่อตั้ง และ CEO ของ Hardware Startup ในเทเป ตระหนักดีว่า ธุรกิจอุตสาหกรรมกำลังเผชิญกับการขาดแคลนชิป บางชิปจะต้องรอสินค้าและอาจจะต้องรอสั่งของนาน ผู้ซื้อรายเล็กก็เสียเปรียบผู้ซื้อรายใหญ่ ซึ่งมีกำลังซื้อมากกว่า

4 เดือนต่อมา การขาดแคลนของชิป กระทบกับ Apple และ Samsung Electronics ซึ่งเมื่อวันที่ 12 เมษายนที่ผ่านมา Joe Biden เป็นประธานในการประชุมที่ White House กับผู้ผลิตชิปชั้นนำ Intel, Taiwan Semiconductor Manufacturing Co. และ Samsung Electronics รวมไปถึงผู้ผลิตรถยนต์ Ford Motor และ General Motors เพื่อหาทางออกร่วมกันในเรื่องการขาดแคลนชิป


Joe Biden โชว์ silicon wafer ใน virtual meeting กับ CEO (ภาพจาก AP)

ผลกระทบของการขาดแคลนชิป ทำให้กระทบอุตสาหกรรมรถยนต์ โดยเฉพาะ อเมริกา ญี่ปุ่น และเยอรมัน 3 ผู้นำอุตสาหกรรมรถยนต์ และเริ่มส่งผลต่อผู้ผลิตชิปในเอเชีย อย่างเกาหลีใต้ และไต้หวัน เพื่อเน้นทำชิปสำหรับอุตสาหกรรมรถยนต์ รวมทั้งผู้ผลิตสมาร์ทโฟนและชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์

รัฐบาลทั้ง 3 เริ่มหวั่นวิตกเพราะผู้ผลิตรถยนต์เริ่มชะลอตัวเพราะขาดแคลนชิป โดยเฉพาะในช่วงโควิด บริษัทอย่าง TSMC และ Samsung พยายามที่จะดึงชิปออกมาให้ได้เร็วที่สุด

ซึ่งเหตุการณ์นี้ นอกจากจะทำให้เสียการแข่งขัน กระทบการแข่งขันของบริษัทแล้ว ยิ่งฉุดคู่แข่งให้แย่ลงไปอีก ซึ่งการเมืองกดดันผู้ผลิตรถยนต์ อุตสาหกรรม เมื่อก่อนคือ First come, first served ชิป ซึ่งการแข่งขันก็แย่ลง เพราะฉุดทุกอย่าง แม้กระทั่งคู่แข่ง

การพยายามบอกให้ผู้ผลิตชิปไม่ส่งของให้กับบริษัทคู่แข่งขนาดเล็ก และยอมจ่ายราคาที่สูงกว่า แต่วิธีนี้ ไม่ใช่วิธีที่ดี เพราะฉุดคู่แข่งให้แย่ลง อุตสาหกรรมก็แย่ลงไปด้วย


การมาของ 5G การสร้าง การวางเครือข่าย 5G และสมาร์ทโฟน ส่งผลให้ความต้องการชิปมีมากขึ้น เพราะต้องเร่งผลิตแข่งกับคู่แข่ง

ยกตัวอย่าง มือถือ 5G มี 3 เสา เมื่อเทียบกับ 1 เสาของมือถือ 4G ดังนั้นจึงต้องการ 30% ถึง 50% เพื่อ "passive components" ต้องการใช้ชิปและอุปกรณ์มากกว่ามือถือ 4G ซึ่งต้องมีชิปและชิ้นส่วนไว้ตลอดเวลา

เหตุผลหนึ่งที่ supply หายาก ก็เพราะการเพิ่มขึ้นของการผลิต อย่างเช่น Intel ใน U.S. เคยประกาศว่า ใช้จ่าย $20 พันล้านดอลล่าาร์ สำหรับสร้างชิป ใน Arizona แต่กว่าจะได้เริ่มคงเป็นปี 2024

อีกเหตุผล ที่ขาดแคลนชิปก็คือ บริษัทต้องการขยายการผลิต แต่ไม่มีใครกล้าเสี่ยง ทำให้ต้องรอของนานสำหรับออเดอร์ใหม่

Samsung Electronics ยอมรับว่า ปัญหานี้คือ "problematic" ในเดือนเมษายน ถึงเดือนมิถุนายน และ Apple กระทบกับการผลิต MacBooks และ iPads ได้ช้าลงไปอีก

ผลกระทบของการขาดแคลนในครั้งนี้ โดยเฉพาะ startups และบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็ก อาจเพลี่ยงพล้ำทางธุรกิจได้เลยหากไม่มีชิปให้ผลิตสินค้าได้ทันตามเวลา

เหตุผลก็เพราะว่า startups ไม่มีของตุนไว้ และไม่มีกำลังซื้อมากเท่ากับบริษัทใหญ่ๆ ตอนนี้ต้องทำงานแข่งกับเวลาเพื่อหาทางออกในการจัดหาชิ้นสุดเพื่อความอยู่รอด

asia.nikkei.com หน้าธุรกิจhttps://asia.nikkei.com/Business/Business-Spotlight/How-the-chip-shortage-got-so-bad-and-why-it-s-so-hard-to-fix