18 ธ.ค. 2563 7,364 240

เปิดโผบอร์ดบริหาร NT บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ เร่งแก้ปัญหาถ่วงดุลอำนาจสาย TOT และ CAT สู้ศึกชิงคลื่น 5G ให้บริการด้วยเสา 25,000 ต้น และเน็ตไฟเบอร์

เปิดโผบอร์ดบริหาร NT บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ เร่งแก้ปัญหาถ่วงดุลอำนาจสาย TOT และ CAT สู้ศึกชิงคลื่น 5G ให้บริการด้วยเสา 25,000 ต้น และเน็ตไฟเบอร์

“รมว.ดีอีเอส ประกาศดีเดย์ 7 มกราคม 2564 จดทะเบียนควบรวม TOT-CAT เป็นบมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติหรือ NT เผย ควบรวมช่วยลดการลงทุนที่ซ้ำซ้อน ส่งผลดีประชาชนและประเทศ”

พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ชี้การควบรวมกิจการครั้งนี้ระหว่าง TOT และ CAT กลายเป็น บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด ( มหาชน ) หรือ NT เพื่อให้ทันต่อการประมูล 5G ในครั้งต่อไปหลังจากที่ AIS และ TRUE ให้บริการ ส่วน Dtac ยังไม่ได้ให้ให้บริการ ครั้งนี้ทาง NT ทันในการเข้ารวมการให้บริการ 5G อย่างแน่นอน ด้วยจำนวนเสาสัญญาณ 25000 ต้น คลื่น 600 MHz เคเบิล fiber 9 ระบบ 14 pop ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งและมีพนักงานระดับ 20,000 อัตราที่สามารถให้บริการลูกค้าได้ทันที

โดยหากไม่ปรับตัวในอนาคต เมื่อรัฐวิสาหกิจไม่มีรายได้จากเอกชน อาจต้องลดพนักงานทั้ง TOT และ CAT สูงเป็นจำนวน 10,000 อัตรา

ซึ่งวันที่ 7 มกราคม 2564 เป็นต้น องค์กร TOT และ CAT องค์กรจะถูกยุบตามกฏหมาย  กลายเป็น NT หรือ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด ( มหาชน ) ต่อไป

ส่วนบอร์ดทั้ง 2 องค์กร โดย TOT มีจำนวน 10 ท่าน และ CAT มีจำนวน 9 ท่าน ก็ต้องสิ้นสภาพไปกลายเป็นพนักงานธรรมดาหรือเป็นไปตามสัญญาการว่าจ้างต่อไป เมื่อรวมบริษัทเรียบร้อยซึ่งจะต้องเข้าสู่การแต่งตั้งบอร์ดใหม่ต้องดำเนินการก่อน 7 มกราคม 2564 ก่อนที่บริษัทจะเปิดดำเนินการต่อไป



คำถามใหญ่!!!  กจญ. CAT เดิมยังคงมีบทบาทหรือไม่ (ในขณะเดียวกันของ TOT ยังมีรักษาการในตำแหน่งอยู่)

พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ระบุ
เนื่องจากสัญญาจ้างของพันเอกสรรพชัย หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ CAT จะหมดไปพร้อมกับการควบรวมบริษัท ส่วนนายมรกต เธียรมนตรี รักษาการ TOT ยังสามารถอยู่ที่เดิมยังเป็นรักษาการ NT

เพื่อทำให้เกิดความเท่าเทียมกันระหว่างการบริหารคนในสาย TOT และ สาย CAT ในบริษัทใหม่ NT

วิธีการแก้ไขปัญหาที่ดีที่สุดคือการนำพันเอกสรรพชัย หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ CAT กลับมาอยู่ในบอร์ดอีกครั้งหนึ่งโดยให้พันเอกสรรพชัย หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ CAT รักษาการเป็นรองกรรมการ ซึ่งหมายความว่าเป็นรองในสายงานที่เคยดูแลมาก่อนหน้านี้

เพื่อให้คนที่เคยดูแลองค์กรของ CAT ที่เข้าใจระบบมากที่สุดและเข้าใจในการดำเนินการควบรวมกิจการในครั้งนี้ มีความเท่าเทียมกันโดยที่นายมรกต เธียรมนตรี รักษาการ TOT เช่นกัน ซึ่งยังสามารถดูแลสายงานของ TOT

ซึ่งหากไม่แต่งตั้งพันเอกสรรพชัย หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ CAT แล้วกลายมาเป็นกรรมการบอร์ดธรรมดาก็จะไม่สามารถดูแลระบบการปฏิบัติงานได้ เนื่องจากบอร์ดจะดูแลเฉพาะนโยบายกว้างเท่านั้น

การดึงผู้บริหารชุดเดิมทั้งคู่มาช่วยประคับประคองสถานการณ์ได้ก็จะเป็นประโยชน์ที่สุด

ซึ่งกระบวนการแต่งตั้ง ยังคงต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายรัฐวิสาหกิจ ต้องมีผู้บริหารระดับสูงการกำกับดูแล โดยมีกระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เบื้องต้นได้แต่งตั้งไปทั้งหมด 5 คน เสนอนายกรัฐมนตรีไปเพื่อให้เห็นชอบแล้วผ่านไปยังการประชุมผู้ถือหุ้นนั้นคือ กระทรวงการคลัง

เราไม่ต้องการให้งานทุกอย่างสะดุดลง ดังนั้นเราจะต้องตั้งบอร์ดบริหารในจำนวนที่น้อยที่สุดก่อน และให้ทันก่อนวันที่ 7 มกราคม 2564


สำหรับประธานกรรมการจะต้องได้รับความเห็นชอบจากนายกรัฐมนตรีในขั้นตอนถัดไป ซึ่งไม่ต้องผ่าน ค.ร.ม. โดย ค.ร.ม. เป็นเพียงการรับทราบเท่านั้น

รับประกันได้ว่าไม่มีใครเป็นใหญ่กว่ากันระหว่าง CAT และ TOT

ส่วนกรณีข้อพิพาทระหว่าง TOT และแคทจะต้องยุติลงและจบลงก่อนวันที่ 7 มกราคม 2564 เนื่องจากเป็นบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด ( มหาชน ) ลูกค้าและทรัพย์สินทั้งหมด รวมถึงสัญญาทั้งหมดจะปรับเปลี่ยนเป็น NT ทั้งหมด

ส่วนรายชื่อคณะผู้บริหารNTที่เสนอไปให้นายกรัฐมนตรี ( ล่าสุดในเวลา 16.00 น. ของวันที่ 18 ธันวาคม 2563 )
1. นายมรกต เธียรมนตรี รักษาการ TOT
2. รอง ปลัดกระการคลัง
3. นายอำนวย ปรีมนวงศ์ อธิบดีกรมธนารักษ์
4. นาวาอากาศเอก สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ ประธานบอร์ tot
5. คนนอก


นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เป็นประธานเปิดกิจกรรม Employee Town Hall ที่ห้องประชุมใหญ่ (Auditorium) บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) สำนักงานใหญ่ แจ้งวัฒนะซึ่งมี นายมรกต เธียรมนตรี รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และ พันเอก สรรพชัย หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) นำพนักงานร่วมในการประชุมรวมกว่า 1,000 คน และสหภาพแรงงานของ ทีโอที และ กสท โทรคมนาคม เข้าร่วมรับฟังนโยบาย และแผนงานการ บริหารงานภายหลังการควบรวมในครั้งนี้

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลฯ กล่าวว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบในการดำเนินการควบรวมกิจการระหว่างบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) หรือ TOT และ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT เป็น บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) (National Telecom Public Company Limited :NT) โดยมีกำหนดวันจดทะเบียนในวันที่
7 มกราคม 2564 ซึ่งภายหลังการควบรวมสำเร็จ จะส่งผลให้ NT มีโครงสร้างพื้นฐานครบวงจรมากที่สุด

ซึ่งในวันนี้ได้มาพบกับพนักงานและสหภาพแรงงานของทั้ง กสท และ ทีโอที เพื่อที่จะสื่อสารไปยังพนักงาน ระดับต่างๆ ในองค์กร
ให้พนักงานสามารถ ร่วมขับเคลื่อนองค์กร ไปในทิศทางเดียวกัน ตามวิสัยทัศน์ พันธกิจ ค่านิยมและแนวนโยบายที่กำหนดเพื่อให้ องค์กรสามารถบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ได้ โดยการสื่อสารครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่สื่อสารข้อมูลที่ถูกต้องให้พนักงานรับทราบและ/หรือซักถามข้อสงสัย เกี่ยวกับการควบรวมกิจการ กสท และ ทีโอที เป็นรัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจ
และสังคม ซึ่งที่ผ่านมาทั้งสองบริษัทมีการดำเนินกิจการและการลงทุนที่ทับซ้อนกันการควบรวมสององค์กรเป็นหนึ่งเดียว นำไปสู่ การสร้างองค์กรใหม่ ที่ทรงพลังและแข็งแกร่งมากพอที่จะรับมือกับคลื่นแห่งการเปลี่ยนแปลงแบบdisruption อย่างต่อเนื่อง

ที่เข้ามาสู่อุตสาหกรรมต่างๆ รวมทั้งโทรคมนาคมส่งผลให้ทั้ง กสท และ ทีโอที จำเป็นต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่การทำธุรกิจยากต่อการต่อสู้โดยลำพังและต้องการพันธมิตรที่มีศักยภาพและไว้วางใจได้จากการควบรวมกิจการในครั้งนี้จะส่งผลทำให้ NT มีโครงข่ายครอบคลุมพื้นที่มากที่สุดมีคลื่นความถี่โทรศัพท์ ครบทุกระยะ และคุณภาพการใช้งานที่ดีที่สุด ทำให้มีศักยภาพและขีดความสามารถในการให้บริการ ทั้งลูกค้าภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนทุกพื้นที่สำหรับลูกค้าภาครัฐจะได้รับบริการโครงข่าย

ที่มีความแข็งแกร่งเพื่อช่วยเพิ่มศักยภาพในการพัฒนาประเทศเพื่อเข้าสู่ Thailand 4.0 และยังสามารถช่วยส่งเสริมศักยภาพในการแข่งขันให้แก่ลูกค้าเอกชนทั้งรายใหญ่และ SME ส่วนประชาชนทั่วไปจะได้รับบริการโทรคมนาคมที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ในประเทศเพื่อเข้าถึงโลกดิจิทัล ซึ่งหลังการควบรวม NT จะมีทรัพยากรโครงข่ายที่เพียบพร้อมสำหรับนำไปต่อยอดมีเสาโทรคมนาคม เคเบิลใต้น้ำ คลื่นความถี่ ท่อร้อยสายใต้ดิน, Fiber Optic, Data center และระบบโทรศัพท์ ที่มากขึ้น

"NT จะกลายเป็นบริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติที่มีศักยภาพในการให้บริการโดยเฉพาะเรื่อง 5G และ ดาวเทียม ทั้งการนำเอาดิจิทัลมาให้บริการภาคการสาธารณสุข การเกษตร และคมนาคม โดย NT จะเป็นผู้รวบรวมบิ๊กดาต้าผ่าน 5G ที่ประมูลได้ ซึ่งจะเริ่มนำมาให้บริการภาคสังคมอย่างมีประสิทธิภาพ ลดการลงทุนที่ซ้ำซ้อนกัน เพื่อประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเป็นสำคัญ” พุทธิพงษ์ กล่าว

ขณะที่ พันเอกสรรพชัย หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ CAT เปิดเผยว่า การร่วมมือกันของ 2 หน่วยงานนั้น เพื่อพัฒนาบริการที่ยึดประโยชน์ของประเทศชาติ ซึ่งเป็นเป้าหมายของการควบรวมกิจการฯ ไปสู่การเป็น NT ด้วยจุดแข็งของ CAT ในเรื่องโครงข่ายเคเบิลใต้น้ำและภาคพื้นดิน จะสนับสนุนการให้บริการด้านโทรคมนาคมและดิจิทัลร่วมกันของทั้งสองหน่วยงานมีเสถียรภาพมากขึ้น ซึ่งจะทำให้เกิดการพัฒนาดิจิทัลโซลูชันที่หลากหลายมุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีบนโลกออนไลน์ทั้งในภาคธุรกิจและภาคประชาชน

เช่นเดียวกับ มรกต เธียรมนตรี รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท TOT มั่นใจว่า เมื่อควบรวมทั้ง 2 องค์กรแล้ว NT จะเป็นกลไกของรัฐที่ช่วยขับเคลื่อนประเทศและประชาชนสู่ยุคดิจิทัลได้อย่างเข็มแข็ง ซึ่งทีโอที พร้อมที่จะนำทรัพยากรไม่ว่าจะเป็นระบบสื่อสัญญาณโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมและดิจิทัล รวมทั้งเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการที่มีความชำนาญในการให้บริการซึ่งมีอยู่ครอบคลุมทั่วประเทศ ตอบสนองความต้องการใช้บริการสื่อสารโทรคมนาคมในทุก ๆ ด้าน เพื่อให้คนไทยได้ใช้โทรคมนาคมด้านดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ