24 มี.ค. 2567 16,258 325

ไปรษณีย์ไทย แบรนด์ในใจคนไทย เปิดโรดแมป 3 ปี หลังธุรกิจพลิกกำไรแข่งเดือดโลจิสติกส์ รายได้ทะลุ 2 หมื่นล้าน

ไปรษณีย์ไทย แบรนด์ในใจคนไทย เปิดโรดแมป 3 ปี หลังธุรกิจพลิกกำไรแข่งเดือดโลจิสติกส์ รายได้ทะลุ 2 หมื่นล้าน

ด้วยความผูกพันและความไว้วางใจในแบรนด์ไปรษณีย์ไทย ปี 2566 ที่ผ่านมา ผลสำรวจจึงมีสูงถึง 96.3% ตลอดจน อัตราการเติบโตในปีเดียวกัน พลิกกำไร 78.54 ล้านบาท มีรายได้รวม 20,934.47 ล้านบาท หรือเติบโตสูงขึ้น 7.40% อนาคต Trusted Sustainable ASEAN Brand ต่อไปอีก ปี ข้างหน้า ไปรษณีย์ไทย ต้องการยกระดับเครือข่ายที่ทำการและบุรุษไปรษณีย์ให้เกิดความแตกต่าง ทั้งด้านคุณภาพและในการใช้บริการเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับทุกภาคส่วน

ทั้งนี้ เป้าหมายรายได้รวมปี 2567 คือ 22,802 ล้านบาท คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 350 ล้านบาท จากกลุ่มบริการหลัก ได้แก่ บริการไปรษณีย์ บริการขนส่งและโลจิสติกส์ บริการค้าปลีก บริการการเงิน  ประกอบกับมี เครือข่ายไปรษณีย์ที่ครอบคลุมกว่า 50,000 แห่ง ทีมพี่ไปรฯ Postman Cloud การเปิดศูนย์ไปรษณีย์ เพิ่มโมเดลหารายได้ใหม่ เช่น การให้บริการด้านเอกสารอิเล็กทรอนิกส์แบบ ภายใต้แบรนด์ Prompt Post การพัฒนาสินค้า House Brand ภายใต้สินค้าตราไปร เป็นต้น

ดร.ดนันท์  สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เปิดเผยถึงภาพรวมของตลาดขนส่งในปีที่ผ่านมา "ถือว่ายังมีการเติบโตตามอานิสงส์ของการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และจากการให้บริการกับตลาดต่างๆ รวมทั้งการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ไปรษณีย์ไทยมีการเติบโต ทั้งด้านรายได้และปริมาณชิ้นงานขนส่งที่เพิ่มขึ้น ในปี 2566 ที่ผ่านมามีรายได้รวม 20,934.47 ล้านบาท เติบโตสูงขึ้น 7.40% โดยมีกำไร 78.54 ล้านบาท รายได้หลักมาจากธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ที่มีสัดส่วนรายได้สูงสุด เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ที่ 19.35% โดยปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง มาจากการให้บริการที่ครอบคลุมผู้ใช้บริการทุกกลุ่ม จุดให้บริการที่สะดวกง่ายต่อการเข้าถึง มุ่งเน้นคุณภาพตลอดกระบวนการให้บริการ นอกจากนี้ ไปรษณีย์ไทยยังเห็นโอกาสจากการให้บริการค้าปลีกและการเงิน จึงพัฒนาสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค โดยในกลุ่มบริการนี้มีรายได้เติบโตขึ้น 34.26% ถือเป็นอีกกลุ่มธุรกิจที่ไปรษณีย์ไทยให้ความสำคัญ และพร้อมต่อยอดโซลูชันการให้บริการที่มากขึ้นในปี 2567 นี้"

โดยโรดแมพหรือเป้าหมายใน 3 ปีข้างหน้านั้น ไปรษณีย์ไทย หวังการเป็น Trusted Sustainable ASEAN Brand ดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืนและเป็นแบรนด์ที่น่าเชื่อถือแห่งอาเซียน ซึ่งแบรนด์ของ ไปรษณีย์ไทย เป็นที่รู้จักในต่างประเทศ เชื่อมโยงกับพาร์ทเนอร์ในต่างประเทศ ขยายไปต่างประเทศในอาเซี่ยน โดยปี 2567 ได้ปรับวิสัยทัศน์เป็น ส่งมอบการเติบโตอย่างยั่งยืนผ่านเครือข่ายไปรษณีย์ Delivering Sustainable Growth through Postal Network พร้อมวาง 10 ความโดดเด่นและการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ ได้แก่ การมุ่งเน้นคุณภาพ หลีกเลี่ยงสงครามราคา การปรับภาพจำของแนวทางการดำเนินงานแบบรัฐวิสาหกิจไปสู่เอกชน พร้อมพัฒนา Logistics Company ให้ก้าวสู่ Information Logistics Company ที่นำข้อมูลมาปรับปรุงต่อยอดบริการให้ตรงใจ รวมทั้งบูรณาการข้อมูลที่มีอยู่ให้ทุกภาคส่วนสามารถใช้ประโยชน์ร่วมกัน การยกระดับสัมพันธภาพที่ดีให้เป็นความเชื่อมั่น การขยายฟังก์ชันการทำงานของบุรุษไปรษณีย์ หรือ Postman สู่  Post – Gentleman as a service ที่พร้อมให้บริการในหลากหลายด้าน และปรับสนามการแข่งขันให้เป็นความร่วมมือเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนในตลาดขนส่งโลจิสติกส์ การเปลี่ยน Postman สู่ Post – Gentleman as a service บุรุษไปรษณีย์ยุคใหม่ ไม่ใช่แค่หล่อ สุภาพ ไม่ใช่แค่ส่งของ แต่เป็น Last Mile ทำได้มากกว่าส่งของ เช่น อ่านมิเตอร์น้ำ หรือเอาน้ำดื่มไปส่งให้ สามารถกดรับงานเหมือนกับไรเดอร์เอกชนทั่วไปเลย ทำตามออเดอร์ที่ได้รับ ไม่ใช่แค่งานขนส่ง และแม้จะมีงานเพิ่มมากขึ้น แต่ยังสามารถบริหารคนได้ โดยที่ไม่ต้องใช้คนเพิ่ม


อย่างไรก็ตาม ในส่วนของเป้าหมายรายได้รวมปีนี้ ไปรษณีย์ไทยวางไว้ที่ 22,802 ล้านบาท คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 350 ล้านบาทจากกลุ่มบริการหลัก ได้แก่ บริการขนส่งและโลจิสติกส์ บริการไปรษณียภัณฑ์ บริการค้าปลีก บริการการเงิน และบริการคลังสินค้า เป้าหมายที่ตั้งไว้จะเกิดขึ้นได้จากทรัพยากรที่มีศักยภาพ ครอบคลุมทุกพื้นที่ ได้แก่ เครือข่ายไปรษณีย์ที่ครอบคลุมแล้วกว่า 30,000 แห่ง ซึ่งล่าสุดได้ร่วมมือกับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดจุดให้บริการไปรษณีย์ไทย@ธงฟ้า ตั้งเป้า 20,000 แห่ง ภายในปี 2567 ด้วยบุรุษไปรษณีย์ที่มีอยู่กว่า 25,000 คน ที่สามารถให้บริการได้ตลอด 365 วัน การเปิดศูนย์ไปรษณีย์สกลนครเพื่อรองรับการขยายตัวของปริมาณงานในพื้นที่ภาคอีสานตอนบน การแสวงหารายได้ใหม่ที่ยั่งยืนไม่ว่าจะเป็น บริการ Prompt Post ที่เตรียมเปิดให้ร่วมทายผลฟุตบอลยูโร 2024 บริการ e-Timestamp e-Signature e-Seal ส่งเสริมความเชื่อมั่นและความปลอดภัยในการจัดการเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ ตู้ไปรษณีย์ดิจิทัล (Digital Post Box) ในปีนี้ ช่วงไตรมาส 3 จะมีการให้บริการ จัดการเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ Digital Post Box ผู้ใช้บริการทุกคนใช้งานได้ เชื่อมระหว่าง Physical และ Digital 

การใช้ศักยภาพความเชี่ยวชาญของบุรุษไปรษณีย์ให้บริการในรูปแบบ Postman as a Service เช่น การสำรวจสินทรัพย์ การรับส่งสิ่งของแบบ On Demand การรุกขายสินค้าตัวท้อปใกล้ไกลบนแพลตฟอร์มไทยแลนด์โพสต์มาร์ท นอกจากนี้ ยังมีสินค้า House Brand เช่น กาแฟ ข้าวสาร น้ำดื่ม ตราไปรจากการคัดสรรสินค้าคุณภาพดีมานำเสนอให้กับผู้บริโภค โดยแนวคิดการผลิตและจำหน่ายสินค้า House Brand มาจากสินค้าบางประเภท ที่เป็นเทรนด์ของผู้บริโภค ทำน้ำดื่ม กาแฟ ข้าวสาร ซึ่งเป็นสินค้าผู้บริโภคต้องการตลอดเวลา อยากได้อะไรก็ไปที่ไปรษณีย์ ข้าวสาร ช่วยเกษตรกร กาแฟ ช่วยชาวบ้าน ไม่มีค่าส่ง (ฟรี) แต่ไม่ได้จัดโปรโมชั่น ข้าวสาร น้ำดื่ม เพราะหากมองที่โปรโมชั่น จะต้องแข่งเรื่องราคา


"ภาพรวมในปี 2567 ธุรกิจไปรษณีย์ - ขนส่งจะยิ่งทวีความสำคัญ เนื่องจากเป็นหนึ่งในภาคบริการที่เชื่อมต่อกันทั้งเศรษฐกิจและสังคม ไปรษณีย์ไทยจึงให้ความสำคัญกับการสร้างความแตกต่างที่ตอบสนองความต้องการระยะยาว จากการเป็นผู้ที่เข้าใจพฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา รวมถึงความตระหนักถึงการรักษาสิ่งแวดล้อม ให้ความสำคัญกับกลุ่มตลาด Niche Market ในการให้บริการขนส่งสินค้าที่มีความเฉพาะเจาะจง เช่น ผลไม้และผลผลิตเกษตร สิ่งของขนาดใหญ่ สินค้าควบคุมอุณหภูมิ ยาและเวชภัณฑ์ การใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารระวางการขนส่ง ลดต้นทุน เพิ่มความแม่นยำ ติดตามได้แบบเรียลไทม์"

เมื่อพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป ในการส่งของ ไม่ใช่แค่ว่า ส่งของได้ตาม SLA ส่งของถึงภายในกี่วัน แต่ลูกค้ามีการตรวจสอบ Tracking เพื่อวางแผนการรับส่งของด้วย มีการนำระบบ AI มาช่วยในการวางแผนเส้นทางขนส่ง ในการใช้บริการทั้งหมด รวมไปถึงบริการหลังการขาย (After-Sale) และปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นหลังจากนั้น นำมาใช้ในการแก้ไข ตอบสนองความพึงพอใจของลูกค้า มีการมอนิเตอร์ นโยบาย Zero-Complaint ลดการร้องเรียน โดยมีการเข้ามาดูแล มอนิเตอร์ในทุกๆ กลุ่มลูกค้า ในทุกๆ ที่ ไม่ใช่เฉพาะ Own Media เพจ Official แต่ไปในทุกๆ ที่ที่ลูกค้าใช้งาน หากมีการร้องเรียน ไม่เกิน 1 - 2 ชั่วโมง จะมีเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแล ตรงนี้มาจากการปรับโครงสร้างองค์กร ทำให้รองรับการให้บริการลูกค้าได้ดีขึ้น เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ปีที่แล้ว พ.. 2566 กำไรธุรกิจขนส่งโตขึ้น

การเพิ่มประสบการณ์ที่ดี โดยเฉพาะบริการที่ยืดหยุ่นและปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม บริการจัดส่งทุกวันไม่มีวันหยุด การปรับรูปแบบการจ่าหน้าให้เป็นดิจิทัล การให้บริการคลังสินค้าครบวงจร นอกจากนี้ยังมุ่งเน้น บริการระหว่างประเทศ ด้วยการขนส่งสินค้าทางราง ทางอากาศ หรือ Cargo Mode บริการ Courier Lite และเพิ่มความสะดวกในการใช้บริการให้กับลูกค้าให้สามารถใช้ช่องการชำระเงินค่าสินค้า บริการผ่านแอปพลิเคชัน We Chat และ Ali Pay ที่จะเริ่มในไตรมาสที่ 2 ปีนี้

ทั้งนี้ ในปี 2566 ไปรษณีย์ไทยมีสัดส่วนรายได้จากกลุ่มงานต่างๆ ได้แก่ กลุ่มบริการขนส่งและโลจิสติกส์ 45.56% กลุ่มบริการไปรษณียภัณฑ์ 33.85% กลุ่มบริการระหว่างประเทศ 13.43% กลุ่มบริการค้าปลีกและการเงิน 4.90% กลุ่มธุรกิจอื่นๆ 0.96% และรายได้อื่นๆ 1.30% และในปี 2567 ตั้งเป้าหมายสัดส่วนรายได้กลุ่มบริการขนส่งและโลจิสติกส์ 46.12% กลุ่มบริการไปรษณียภัณฑ์ 32.48% กลุ่มบริการระหว่างประเทศ 13.98% กลุ่มบริการค้าปลีกและการเงิน 5.10% กลุ่มธุรกิจอื่น ๆ 0.90% และรายได้อื่นๆ 1.42%

ดร.ดนันท์ ยังได้ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า "จากการขยายธุรกิจด้านรีเทล (Retail) ในกลุ่มบริการค้าปลีกและการเงิน ในแง่ของสินค้า บริการ ช่องทาง ปีที่แล้วเติบโตขึ้นเกือบ 3 เท่า แตะระดับพันล้าน เป็นทิศทางที่มุ่งเน้น เพราะเชื่อว่าด้วยเครือขายมีประสิทธิภาพมากพอที่จะเติบโตได้ในธุรกิจนี้ และยังเป็นการเติบโตของพี่น้องชาวไทย ช่วยพ่อค้า แม่ค้าในการกระจายรายได้สู่วิสาหกิจชุมชน ผลักดันสินค้าให้ถึงลูกค้าได้มากขึ้น พร้อมสำหรับตลาดในไทย และไปต่อยังตลาดต่างประเทศได้

สำหรับทิศทางในอนาคต วิสัยทัศน์ไปรษณีย์ไทยต้องการเป็นแบรนด์ที่มีความน่าเชื่อถือ เติบโตอย่างยั่งยืน ไปรษณีย์แต่ละประเทศ มีความแตกต่างกัน ส่งของรวดเร็ว ไม่เสียหาย ในไทยมีพาร์ทเนอร์ร่วมมือกัน และไปรษณีย์ไทยยังช่วยทำให้พาร์ทเนอร์เติบโตขึ้นด้วย ทำยังไงให้เขาเติบโตได้ สนับสนุนพันธมิตร ลูกค้าของพันธมิตร

ไปรษณีย์ไทยไม่ได้เกิดมาเป็น Tech Company ไม่ได้เกิดมาเป็น e-Commerce Platform ที่มีช่องทางออนไลน์ อย่างบริษัทอื่นๆ แต่มีความแข็งแกร่ง มีจุดเด่น สร้าง Value ให้กับลูกค้าและพันธมิตร เป็นรีเทลที่เข้าใจความต้องการของลูกค้าคนไทย ในสังคมไทย ส่งมอบการเติบโตอย่างยั่งยืน



ทุกวันนี้ ไปรษณีย์ไทย ไม่มีคำว่า SLA เพราะถ้าได้มาตรฐาน เราไม่จำเป็นต้องมี ตรงส่วนนี้มาจากการเปลี่ยน Culture ขององค์กร ส่งมอบประสบการณ์เหนือความคาดหวัง (Overdeliver) ต่อยอด Brand Love ให้ไปรษณีย์ไทย ภาพรวมของการให้บริการในปีนี้ ในวันที่มีการแข่งขัน ในยุค e-Commerce ขายสินค้าออนไลน์ ไปรษณีย์ไทยก็ช่วยเรื่องการขนส่งสินค้าให้กับพ่อค้า - แม่ค้า บางส่วน แต่ปัจจุบันสัดส่วนรายได้จาก e-Commerce ไม่ได้เยอะมาก มีประมาณ 20% ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการเจรจาเชื่อมต่อกับแพล็ตฟอร์ม e-Commerce แต่ก็จะต้องแข่งขันกับเงื่อนไขต่างๆ ของแพล็ตฟอร์ม e-Commerce ที่มีขนส่งเอกชนของต่างชาติอยู่ในมือ

"หากมองภาพรวมในปี 66 มีการลดต้นทุนบุคลากร แต่จะลดยังไงไม่ให้ลูกค้าเดือดร้อน และพนักงานเองก็ไม่เดือดร้อน สิ่งที่ทำคือขึ้นเงินเดือนให้ 75% นอกจากนี้ การที่กำไรเพิ่มขึ้นเป็น 5 เท่า มาจากการมองเรื่อง Logistic มากขึ้น มองลูกค้าแบรนด์ใหม่เพิ่มขึ้น เป้ากำไร 5 เท่า ไม่อยากให้มองแค่ ไปถึงเป้าหรือเปล่า เพราะไม่ได้มองแค่เสื้อผ้าหน้าผมดี แต่นิสัย ต้องดีด้วย ไม่ได้มองแค่เงินลงทุนหรืองบประมาณ ไปให้ถึง แต่ดูที่ พฤติกรรมดี น่าคบ มองไปที่การเป็น Brand Love"

สำหรับการแข่งขันในการขนส่งแบบ Last Mile Delivery ขนส่งสินค้าจากศูนย์กระจายการขนส่งสุดท้ายไปยังปลายทางที่กำหนด ไปรษณีย์ไทยทำได้ดี เนื่องจากใช้พฤติกรรมของผู้บริโภคและลูกค้า ในการจัดการการขนส่งสินค้า เช่น ตอนเที่ยงคนสั่งอาหารมาก ต้องมีการจัดสรรช่วงเวลาให้เหมาะสมกับความต้องการลูกค้า เพื่อตอบสนองความพึงพอใจให้กับผู้ใช้บริการทุกคนอย่างสูงสุด