16 ม.ค. 2567 264 0

Samsung ขยายไลน์อัพเกมมิ่งมอนิเตอร์ Odyssey ด้วยการเปิดตัว OLED รุ่นใหม่ที่งาน CES 2024

Samsung ขยายไลน์อัพเกมมิ่งมอนิเตอร์ Odyssey  ด้วยการเปิดตัว OLED รุ่นใหม่ที่งาน CES 2024

มาทั้ง Odyssey OLED G8, Odyssey OLED G6 and Odyssey OLED G9

ซัมซุงนำเสนอเกมมิ่งมอนิเตอร์กลุ่ม Odyssey OLED รุ่นใหม่ในงาน CES 2024 ที่ ลาส เวกัส งานเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในโลก จัดโดย Consumer Technology Association (CTA) OLED รุ่นใหม่มาพร้อมประสิทธิภาพและภาพที่คมชัดอย่างที่เกมเมอร์มองหา โดยจะมาทั้ง Odyssey OLED G9, Odyssey OLED G8 และ Odyssey OLED G6

Odyssey OLED G9 มาในจอแบบ Ultra-wide โค้งขนาด 49 นิ้ว ความละเอียด DQHD อัตราส่วนหน้าจอ 32:9 พร้อมอัพเกรดฟีเจอร์ต่างๆ อีกมากมาย ในขณะเดียวกัน Odyssey OLED G8 จะเป็น OLED แบนขนาด 32 นิ้วรุ่นแรกของซัมซุงที่มีความละเอียด 4K UHD และอัตราส่วนหน้าจอ 16:9 โดยทั้ง 2 รุ่นมีอัตรารีเฟรชที่ 240 Hz และอัตราการตอบสนอง GTG  ที่ 0.03 มิลลิวินาที[1] ส่วน Odyssey OLED G6 มาในขนาด 27 นิ้ว ความละเอียด QHD มีอัตราส่วนหน้าจอแบบ 16:9 อัตรารีเฟรชที่ 360 Hz และอัตราการ GTG ที่ 0.03 มิลลิวินาที

“ในขณะที่เกมและแพลตฟอร์มมีความหลากหลายมากขึ้น OLED Odyssey จะช่วยให้เกมเมอร์ดื่มด่ำกับเกมด้วยความสมจริงยิ่งขึ้นและเทคโนโลยีที่สามารถปรับแต่งได้แบบเฉพาะบุคคล เพื่อเติมเต็มและมอบสิ่งที่เหนือกว่า” ฮุน ชุง รองประธานบริหารและหัวหน้ากลุ่มธุรกิจลูกค้าองค์กรของซัมซุง กล่าว

เทคโนโลยีเพื่อการแสดงสีสันที่เสมือนจริง

Odyssey OLED G9, Odyssey OLED G8 และ Odyssey OLED G6 มาพร้อมกับ OLED Glare-Free ที่ช่วยลดการสะท้อนแสงโดยไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์เสริม ระดับแสงและสีสันของหน้าจอจะมีความคมชัดในทุกสภาพแสง และยังมีเทคโนโลยี VESA DisplayHDR™ True Black 400 ที่ช่วยแสดงรายละเอียดได้อย่างครบถ้วน สีสันคมชัดไม่ว่าจะเป็นเกมแบบไหน อีกทั้งยังรองรับ AMD FreeSync™ Premium Pro ที่ให้ประสบการณ์การเล่นเกมแบบ HDR ไม่มีสะดุด นอกจากนี้ยังรองรับการเชื่อมต่อที่หลากหลาย ทั้ง HDMI 2.1, USB Hub และ DisplayPort 1.4 และรองรับมาตรฐาน VESA[2] ซึ่งสามารถปรับ โยก หรือหมุน[3]ได้ 

ประสบการณ์การเชื่อมต่อที่หลากหลายในอิโคซิสเต็มที่ครบวงจร

นับแต่นี้ Odyssey OLED G9 และ Odyssey OLED G8 จะรองรับ Multi Control ฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ ได้ง่ายขึ้น ผู้ใช้สามารถถ่ายโอนภาพหรือข้อความข้ามอุปกรณ์ระหว่างมอนิเตอร์กับอุปกรณ์อื่นๆ ของซัมซุง เช่น Galaxy Book แท็บเลต หรือสมาร์ทโฟน ได้อย่างสะดวกสบายโดยใช้เมาส์และคีย์บอร์ด[4] ทั้ง 2 รุ่นยังมาพร้อม Samsung SmartThings Hub ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อและสั่งการอุปกรณ์ IoT ที่รองรับมาตรฐานแมทเทอร์และมาตรฐานที่กำหนดโดยสมาคม HCA (the Home Connectivity Alliance)[5]

ดีไซน์เรียบหรู เสริมภาพลักษณ์ให้ทุกห้อง

Odyssey OLED ถูกยกระดับไปอีกขั้นด้วยรูปลักษณ์ที่โดดเด่น เพรียวบาง ใช้วัสดุโลหะ และเทคโนโลยี Core Lighting+ ที่ช่วยเสริมสภาพแวดล้อมขณะเล่นเกมหรือขณะทำกิจกรรมเพื่อความบันเทิงด้วยแสงไฟแอมเบียนต์จากด้านหลัง โดยจะมีขนาดบางกว่ารุ่นเดิม 4 เท่า ใส่ไว้ข้างใต้ขอบจอที่บางเพียง 3.9 มิลลิเมตรได้ นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับขาตั้งโลหะหนา 3 มิลลิเมตรเท่านั้น ช่วยประหยัดพื้นที่ กลมกลืน และสามารถประกอบได้โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือ

การเปิดตัวของกลุ่ม Odyssey OLED ในครั้งนี้ ซัมซุงเสริมแกร่งไลน์อัพ OLED พร้อมตอกย้ำผู้นำเกมมิ่งมอนิเตอร์ ด้วยนวัตกรรมและการสานต่อความก้าวหน้าของเกมมิ่งตระกูล Odyssey Neo ซึ่งเป็นเกมมิ่งมอนิเตอร์แบบคู่ความละเอียด UHD รุ่นแรกของโลก วางจำหน่ายเมื่อปีก่อน ในรุ่น Odyssey Neo G9 ขนาด 57 นิ้วนั้นช่วยมอบทั้งคุณสมบัติและประสิทธิภาพซึ่งจะช่วยนิยามอนาคตใหม่ของการเล่นเกม

[1] GTG เป็นหน่วยการวัดความเร็วของพิกเซลที่ใช้เพื่อวัดอัตราการตอบสนองพิกเซลของเกมมิ่งมอนิเตอร์

[2] VESA หมายถึงมาตรฐานขายึดจับจอซึ่งเป็นที่นิยมในอุตสาหกรรมมากที่สุด โดยเป็นมาตรฐานที่กำหนดโดยthe Video Electronics Standards Association (VESA)

[3] การหมุนหรือปรับโดยใช้ปุ่มควบคุมได้รองรับในรุ่น G80SD และ G60SD เท่านั้น

[4] ฟีเจอร์นี้ทำงานได้กับจอมอนิเตอร์ซัมซุงที่ใช้ระบบปฏิบิติการไทเซ็นซึ่งวางจำหน่ายตั้งแต่ปี 2024 แล็ปท็อป Galaxy Book ที่วางจำหน่ายตั้งแต่ปี 2021 รวมไปถึงสมาร์ทโฟนและแท็บเลตที่ใช้ One UI 5.1.1 ขึ้นไป

[5] ต้องใช้ SmartThings dongle แยกเพื่อเชื่อมต่อและควบคุมอุปกรณ์ที่รองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อแบบ Zigbee และ Thread ทั้งนี้ ไม่รองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่ใช้มาตรฐานการเชื่อมต่อแบบ Z-Wave