15 ธ.ค. 2566 265 0

ดีอี พร้อมตำรวจไซเบอร์ เปิด 4 ปฏิบัติการล้างบางมิจฉาชีพ ทั้งแอปดูดเงินชายแดน-แกะกล่องพัสดุปลอม-ซื้อขายอาวุธปืนออนไลน์-เว็บพนัน

ดีอี พร้อมตำรวจไซเบอร์ เปิด 4 ปฏิบัติการล้างบางมิจฉาชีพ ทั้งแอปดูดเงินชายแดน-แกะกล่องพัสดุปลอม-ซื้อขายอาวุธปืนออนไลน์-เว็บพนัน

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ร่วมกับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าว CLEANING FRONTIER OPERATION ปฏิบัติการล้างบาง แก๊งแอปดูดเงินแนวชายแดน ส่งตำรวจไซเบอร์เร่งกวาดล้างขยายผลจับกุม 4 ปฏิบัติการ ทั้งแอปดูดเงินชายแดน-แกะกล่องพัสดุลวง-ซื้อขายอาวุธปืนออนไลน์-เว็บพนันตามนโยบายรัฐบาล โดย เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สั่งการให้ดีอี เร่งปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ รวมทั้งสนับสนุนให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารด้านความมั่นคงระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติบริเวณชายแดน พร้อมเน้นย้ำการทำงานใกล้ชิดร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซนเตอร์อย่างเด็ดขาด โดยได้จัดตั้งศูนย์ต่อต้านอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 66 ที่ผ่านมา และได้บูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่าง ธนาคาร กสทช. ตำรวจ ผู้ให้บริการโทรศัพท์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการทำงานเชิงรุกสามารถจับกลุ่มผู้กระทำผิดได้เป็นจำนวนมาก


วันนี้ (15 ธันวาคม 66) ประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อมด้วย สุทธิเกียรติ วีระกิจพานิช ที่ปรึกษารัฐมนตรีดีอี ร่วมกับ กองบัญชาการตํารวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) นําโดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท., พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง แถลงการจับกุม ใน 4 ปฏิบัติการ ได้แก่




1. จับกุมเครือข่ายผู้ร่วมกระทำผิด ในการแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐจากหน่วยงานต่างๆ โทรหลอกลวงผู้เสียหายให้หลงเชื่อ แล้วให้แอดไลน์ เพื่อส่งลิงก์ให้กดดาวน์โหลดแอปหน่วยงานของปลอม หลอกโอนเงิน สร้างความเสียหายแล้วรวมกว่า 12 ล้านบาท จากการสืบสวนพบว่าขบวนการดังกล่าวมีความเชื่อมโยงหลายคดีในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ มีลักษณะเป็นเครือข่ายองค์กรอาชญากรรม ในรูปแบบแก๊งคอลเซนเตอร์ โดยได้ตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด 13 ราย เป็นชาวไทย 12 ราย และชาวกัมพูชา 1 ราย พร้อมยึดของกลางเป็น เงินสด 1 แสนบาท และบัตรกดเงินสด (บัตร ATM) รวมทั้งอายัดเงินในบัญชีธนาคารที่ใช้ในการกระทำความผิดได้รวมมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท

2.  UNBOXSCAM แกะกล่องพัสดุลวง รวบตัวการส่งพัสดุไม่ตรงปก หลอกเก็บเงินปลายทาง ตรวจค้นจับกุมตัวการ กรณีมิจฉาชีพตีเนียนส่งพัสดุหลอกเก็บเงินปลายทาง โดยที่ไม่ได้สั่งซื้อ และส่งสินค้าที่ไม่ตรงปกเพื่อหลอกเก็บเงินปลายทาง สร้างความเสียหายรวมเกือบ 10 ล้านบาทต่อปี จากการสืบสวนพบว่ามีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนโดย อนุศาสน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี ได้ใช้แพลตฟอร์ม TikTok ในการขายสินค้า โดยมีการส่งพัสดุในรอบ 1 เดือน ประมาณ 8,000 ชิ้น และมีพัสดุตีกลับประมาณ 47% อีกทั้งยังมียอดระงับการเก็บเงินปลายทางกว่า 8 แสนบาท

3. การซื้อขายอาวุธปืนและกระสุนปืน ผ่านโซเชียลมีเดีย โดยพบว่ามีการลักลอบจำหน่ายอาวุธปืน ชนิดปืนปากกา  ปืนไทยประดิษฐ์ และเครื่องกระสุนปืน ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ จึงได้ตรวจค้นจับกุม นายปฏิพัทธ์
(ขอสงวนนามสกุล) อายุ 25  ปี พร้อมด้วยของกลางอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืน จำนวน 11 รายการ

4. ขยายผลจับคนกดเงินจ้างแอดมินเว็บโป๊ โปรโมทเว็บพนัน ระดมกวาดล้างอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยได้จับกุมนายอัครนันท์ เจติยากุลไพศาล อายุ 27 ปี แอดมิน VK ชื่อกลุ่ม DARK SIDE CLUB ซึ่งเป็นกลุ่มเปิดที่บุคคลทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ และกลุ่มอื่นๆ ที่มีการโพสภาพลามกอนาจาร แอบแฝงชักชวนเล่นพนันออนไลน์ รวมแล้ว 19 กลุ่ม มีผู้ติดตามรวมกว่า 250,000 คน



ทั้งนี้ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DE) ได้ร่วมมือกับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการเร่งดำเนินการขยายผลจับกุมและทลายเครือข่ายซิมผี บัญชีม้า เพื่อแก้ไขปัญหาให้แก่พี่น้องประชาชนอย่างเร่งด่วน จึงขอเตือนประชาชน ให้เพิ่มความระมัดระวังในการทำธุรกรรมออนไลน์ต่างๆ ให้มีความรอบคอบ อย่าเห็นแก่ประโยชน์เพียงเล็กน้อยในการยินยอมให้มีการซื้อหรือขายบัญชีธนาคาร เนื่องจากผิดกฎหมาย อีกทั้งขอให้ประชาชนพึงระลึกไว้เสมอว่า เจ้าหน้าที่รัฐไม่มีการติดต่อผ่านโทรศัพท์ หรือแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ในการดำเนินการติดตั้งแอป หรือ Login ระบบใดๆ ทางออนไลน์เด็ดขาด หากประชาชนมีข้อสงสัย สามารถโทรปรึกษาสายด่วน AOC 1441 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง