1 ธ.ค. 2566 309 0

PDPC จับมือ คปภ. เร่งเพิ่มความเชื่อมั่นให้ประชาชน ยกระดับแนวทางป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล

PDPC จับมือ คปภ. เร่งเพิ่มความเชื่อมั่นให้ประชาชน ยกระดับแนวทางป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม” และ PDPC หรือ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) ร่วมประชุมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) และสมาชิกเครือข่ายธุรกิจประกันภัย เพื่อหารือและกำหนดแนวทางการป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล เร่งขับเคลื่อนการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและยกระดับความเชื่อมั่นให้กับประชาชนต่อไป 


ประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นประธานในการประชุมหารือแนวทางป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งจัดโดย สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) และสมาชิกเครือข่ายธุรกิจประกันภัย อันได้แก่ 1. สภาธุรกิจประกันภัยไทย 2. สมาคมประกันชีวิตไทย 3. สมาคมประกันวินาศภัยไทย 4. สมาคมตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงิน และ 5. สมาคมนายหน้าประกันภัยไทย ณ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม มีข้อสรุปดังนี้ 


1. PDPC และ คปภ. ร่วมกันจัดตั้งศูนย์เฝ้าระวังและติดตามการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับธุรกิจประกันภัย ชื่อว่า “ศูนย์ คปภ - PDPC Eagle Eye” เพื่อยกระดับการตรวจสอบกำกับดูแลการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในภาคธุรกิจประกันภัยอย่างเคร่งครัดเพิ่มขึ้น พร้อมทั้งสอดส่องดูแลตัวแทน นายหน้าประกันภัย ตลอดจนบุคคลที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามมาตรการในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับเครือข่ายธุรกิจประกันภัย ตามแนวทางที่ คปภ. และ PDPC กำหนดอย่างเคร่งครัด 


2. PDPC คปภ. และสมาคมเครือข่ายธุรกิจประกันภัยที่เกี่ยวข้อง จะร่วมกันจัดทำและประกาศแนวปฏิบัติ (Guideline) เพื่อเป็นมาตรฐานสำหรับธุรกิจประกันภัยในการดำเนินการเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสม

3. ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องยกระดับความเข้มข้นในการกำกับดูแลบุคลากรที่เกี่ยวข้อง เช่น เพิ่มเนื้อหาเกี่ยวกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลไว้ในหลักสูตรการขอรับ/ขอต่อใบอนุญาตเป็นตัวแทนฯ นายหน้าฯ เป็นต้น


“กระทรวงดิจิทัลฯ มีความมุ่งมั่นและพร้อมสนับสนุนแนวทางการดำเนินงานตามข้อสรุปจากการประชุมหารือร่วมกันระหว่าง PDPC คปภ. และสมาชิกเครือข่ายธุรกิจประกันภัย ในวันนี้เพื่อให้สอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2566 ที่เห็นชอบแนวทางในการยกระดับมาตรฐานป้องกันและคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศ ตามมาตรการระยะเร่งด่วน 30 วัน ระยะ 6 เดือน และ ระยะ 12 เดือนต่อไป” ประเสริฐ กล่าวสรุปในตอนท้าย