16 พ.ย. 2566 170 0

จีเอเบิล ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/2566 มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 12% จากปีก่อน

จีเอเบิล ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/2566 มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 12% จากปีก่อน

จีเอเบิล ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/2566 มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 12% จากปีก่อน รายได้ Software Platform ที่เป็น Growth Engine เติบโตสูง 55% จากปีก่อน พร้อมรุกธุรกิจมีศักยภาพต่อเนื่อง

จีเอเบิล (GABLE) ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2566 ยังคงความแข็งแกร่งและเติบโต โดยมีรายได้จากการขายและบริการ 1,342 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 11 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 จากไตรมาสก่อน อีกทั้งมีกำไรสุทธิเป็น 67 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 12 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 11 จากไตรมาสก่อน

ดร.ชัยยุทธ ชุณหะชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จีเอเบิล จำกัด (มหาชน) หรือ GABLE เปิดเผยว่า แม้ว่าจะมีความไม่แน่นอนและความผันผวนของตลาดในช่วงที่ผ่านมานั้น ในไตรมาส 3 ปี 2566 กลุ่มบริษัทฯ มีผลประกอบการเป็นที่น่าพึงพอใจเติบโตจากไตรมาสก่อน และเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และส่วนที่เป็น Growth Engine มีรายได้จากซอฟต์แวร์ที่พัฒนาขึ้นเอง เพิ่มขึ้นร้อยละ 55 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 จากไตรมาสก่อน โดยมีทิศทางที่สอดคล้องกับ 9 เดือนแรก ปี 2566 มีรายได้จากกลุ่มธุรกิจดังกล่าว เพิ่มขึ้นร้อยละ 77 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

รวีรัตน์ สัจจวโรดม ประธานบริหารสายงานการเงินและกลยุทธ์ บริษัท จีเอเบิล จำกัด (มหาชน) หรือ GABLE เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯ ไตรมาส 3/2566 มีรายได้จากการขายและบริการ 1,342 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 11 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน มีกำไรขั้นต้น 275 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 11 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้นที่ระดับร้อยละ 20.5 ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันปีก่อน กลุ่มบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 67 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 12 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และเติบโตร้อยละ 11 จากไตรมาสก่อน โดยไตรมาส 3/2566 มีอัตรากำไรสุทธิร้อยละ 5.0 เพิ่มขึ้นจากอัตรากำไรสุทธิในไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่ระดับร้อยละ 4.9

สำหรับช่วง 9 เดือนแรก ปี 2566 กลุ่มบริษัทฯ มีอัตราส่วนรายได้ที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง (Recurring Income) อยู่ในระดับร้อยละ 51.5 ซึ่งอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับปีก่อน ทั้งนี้ ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2566 กลุ่มบริษัทฯ มียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) แข็งแกร่งในระดับ 3,933 ล้านบาท รองรับการรับรู้รายได้ในอนาคต

จากความสามารถในการทำกำไรอย่างต่อเนื่อง และการมีวินัยทางการเงินของกลุ่มบริษัทฯ ส่งผลให้บริษัทฯ มีอัตราส่วนที่มีภาระหนี้สินที่มีดอกเบี้ยต่อทุน ในระดับ 0.01 เท่า ลดลงจากสิ้นไตรมาสสอง ปี 2566 ที่ระดับ 0.14 เท่า และสิ้นปี 2565 ที่ระดับ 0.59 เท่า ซึ่งการมีหนี้สินอยู่ในระดับต่ำ รองรับการเติบโตของกลุ่มบริษัทฯ ในการลงทุนในธุรกิจเกี่ยวเนื่องที่มีศักยภาพในการเติบโตที่สูงเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัทฯ

ทั้งนี้ จีเอเบิลเป็นผู้ประกอบธุรกิจให้บริการโซลูชั่นระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและดิจิทัล มุ่งเน้นกลุ่มโซลูชั่นระดับองค์กร (Enterprise Solution and Services) ที่ครอบคลุมเทคโนโลยีที่สำคัญในโลกยุคดิจิทัล ด้วยจุดเด่น การนำเสนอโซลูชั่นด้านเทคโนโลยีและดิจิทัลที่ครบวงจรในหลากหลายอุตสาหกรรม ตลอดจน ความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าและเจ้าของผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำจากทั่วโลก นอกจากนี้ การมีรายได้จากการให้บริการที่เกิดขึ้นต่อเนื่องในสัดส่วน ที่สูง (Recurring Income) และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามการให้บริการโซลูชั่นที่ติดตั้งใหม่ในแต่ละปี

“จีเอเบิล เป็นเจ้าของเทคโนโลยี พัฒนาซอฟต์แวร์เป็นของตนเอง (Software Platform) ซึ่งมีการเติบโตในระดับสูง โดยในช่วง 9 เดือนแรกปี 2566 รายได้จากกลุ่มธุรกิจบริการซอฟต์แวร์แพลตฟอร์ม เพิ่มขึ้นร้อยละ 77 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีอัตรากำไรขั้นต้นในระดับสูงเกิน 50% และเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการสร้างความแตกต่างทางการแข่งขันของกลุ่มบริษัทฯ ที่เหนือกว่าคู่แข่ง โดยกลุ่มซอฟต์แวร์แพลตฟอร์ม ถือเป็น Growth Engine ที่พร้อมสำหรับการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์มด้านการบริหารจัดการข้อมูล Big Data ของ Blendata แพลตฟอร์มด้านการตลาดดิจิทัลของ InsightEra หรือว่าจะเป็น แพลตฟอร์มด้านการบริหารพื้นที่เช่าของ Mverge ที่อยู่ในทิศทางที่มีความต้องการของตลาดและมีการเติบโตสูง มาจากประสบการณ์ตรงที่ได้จากการทำโครงการให้กับลูกค้า นอกจากนี้ จีเอเบิลยังมีซอฟต์แวร์แพลตฟอร์มเป็นของตนเองเพิ่มเติมอยู่ระหว่างการพัฒนาและพร้อมนำเสนอแก่ลูกค้าเพื่อสร้างรายได้ให้กับกลุ่มบริษัทฯ ในอนาคต รวมถึงการศึกษาความเป็นไปได้ และพร้อมต่อยอดไปยังซอฟต์แวร์ด้านอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้าง Ecosystem ของกลุ่มบริษัทฯ ให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น” ดร.ชัยยุทธ กล่าวทิ้งท้าย