อาร์ทีบีฯ เปิดตัว THE FERRARI COLLECTION คอลเลคชั่นพิเศษที่เป็นการโคจรมาพบกันของโลกแห่งความเร็ว และเสียงเพลง ผลงานความร่วมมือครั้งแรกของ 2 แบรนด์ดังระดับตำนาน “BANG & OLUFSEN” และ “FERRARI”

บริษัท อาร์ทีบี เทคโนโลยี จำกัด เปิดตัว Bang & Olufsen The Ferrari Collection คอลเลคชั่นสุดพิเศษซึ่งเกิดจากความร่วมมือของ 2 แบรนด์ดังระดับตำนานอย่าง Bang & Olufsen แบรนด์เครื่องเสียงชั้นนำจากประเทศเดนมาร์ก และ Ferrari ผู้ผลิตรถซูเปอร์คาร์สัญชาติอิตาเลียน ด้วยการนำจุดเด่นของ Bang & Olufsen ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านเทคโนโลยีเสียง ฝีมือการผลิตอันแสนประณีต พร้อมดีไซน์ที่เรียบหรู สง่างาม มาผสมผสานกับสีแดงและโลโก้ม้าลำพองที่เป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์ Ferrari ถ่ายทอดผ่านความเงางามบนผิวสัมผัสของอะลูมิเนียมที่ผ่านการชุบอโนไดซ์หรือการทำสี ซึ่งเป็นกระบวนการผลิตที่พัฒนาขึ้นโดยช่างฝีมือของ Bang & Olufsen ที่ Factory 5 ในเมืองสตรูเออร์ ประเทศเดนมาร์ก

The Ferrari Collection ประกอบไปด้วย 3 ผลิตภัณฑ์ไอคอนิกของ Bang & Olufsen ได้แก่ Beoplay EX Ferrari Edition, Beosound Explore Ferrari Edition และ Beoplay H95 Ferrari Edition ซึ่งแต่ละผลิตภัณฑ์ได้นำเอาจุดเด่นของทั้งสองแบรนด์มาผสมผสานกันเอาไว้อย่างลงตัว เพื่อเอาใจผู้ที่ชื่นชอบในดีไซน์และพลังเสียงของ Bang & Olufsen และความร้อนแรงของสีแดง รวมถึงโลโก้ม้าลำพองที่เป็นสัญลักษณ์ของ Ferrari ผลิตภัณฑ์ใน The Ferrari Collection จึงเปรียบเสมือนตัวแทนของโลกแห่งความเร็วและเสียงเพลง รวมถึงความเป็นตำนานที่สามารถจับต้องได้

ผลิตภัณฑ์ The Ferrari Collection ประกอบด้วย 3 รุ่น ดังต่อไปนี้

• Beoplay EX Ferrari Edition หูฟัง True Wireless สุดหรูที่ทรงพลังที่สุดของ Bang & Olufsen ผสานสมรรถนะเข้ากับการออกแบบได้อย่างเหนือชั้น โดยมีทั้งความร้อนแรงของสีแดงและความคลาสสิกของสีดำ เคสชาร์จสีแดงผลิตจากอะลูมิเนียมเกรดเดียวกับยานอวกาศที่ผ่านการชุบอโนไดซ์ ออกแบบมาให้รองรับการชาร์จแบบไร้สาย พร้อมโลโก้ B&O และสัญลักษณ์ม้าลำพองของ Ferrari ที่สลักด้วยเลเซอร์ที่ด้านบนของเคส

แผงควบคุมด้านข้างของหูฟังข้างขวาปั๊มโลโก้ม้าลำพอง ในขณะที่ข้างซ้ายปั๊มโลโก้ B&O พร้อมแผงกระจกและวงแหวนอะลูมิเนียมแบบขัดเงาที่มาในโทนสีแดงเช่นเดียวกับตัวเคส สะท้อนถึงความหรูหราและความเป็นอมตะของทั้งสองแบรนด์ มาพร้อมเทคโนโลยี Adaptive ANC ที่สามารถตัดเสียงรบกวนได้อย่างมีประสิทธิภาพและไดร์เวอร์ขนาด 9.2 มม. ให้คุณเพลิดเพลินกับการฟังเพลงได้อย่างเต็มอารมณ์ วางจำหน่ายในราคา 26,000 บาท

• Beosound Explore Ferrari Edition ลำโพงไร้สายสุดทรหดที่มาพร้อมมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP67 และน้ำหนักที่เบาเพียง 631 กรัม ให้คุณพกพาติดตัวไปได้ทุกที่
  

พื้นผิวของลำโพงผ่านการชุบอโนไดซ์ 2 ชั้น โดยพื้นผิวด้านนอกเป็นสีแดง สื่อถึงความร้อนแรงและความเร็วของรถเฟอร์รารี่ ในขณะที่พื้นผิวด้านในเป็นสีดำ สื่อถึงความคลาสสิกของแบรนด์ ซึ่งทั้งหมดนี้ถ่ายทอดผ่านความประณีตของช่างฝีมือจาก Bang &Olufsen ส่วนฐานของลำโพงและห่วงคาราบิเนอร์มาในสี Black Anthracite ในขณะที่สายคล้องมือทำจากผ้าไนลอนสีดำ ตัวโลโก้ B&O และสัญลักษณ์ม้าลำพองของ Ferrari สลักด้วยเลเซอร์ที่ด้านบนของลำโพง วางจำหน่ายในราคา 13,500 บาท

• Beoplay H95 Ferrari Edition หูฟังครอบหูสุดหรูจาก Bang & Olufsen มาในลุคสีดำสุดคลาสสิกพร้อมลูกเล่นที่วงแหวนอะลูมิเนียมด้านข้างที่เป็นสีแดง ตัวเฮดแบนด์ผลิตจากหนังวัวแท้คุณภาพสูง ในขณะที่ Ear Cup ทำจากเมมโมรี่โฟมหุ้มด้วยหนังแกะ ให้สัมผัสที่นุ่มสบายพร้อมความหรูหรา ทั้งหมดมาในโทนสีดำสุดคลาสสิกเพื่อให้แมตช์กับสีของส่วนที่เป็นอะลูมิเนียม โดยด้านขวาของวงแหวนอะลูมิเนียมบนหูฟังซึ่งใช้เป็นส่วนควบคุมด้วยระบบสัมผัสสลักสัญลักษณ์ม้าลำพอง ในขณะที่ด้านซ้ายสลักโลโก้ B&O ส่วนของแผงลำโพงด้านในทำจากอโนไดซ์ อะลูมิเนียมสีแดง สื่อให้เห็นถึงความใส่ใจในทุกรายละเอียดของช่างฝีมือจาก B&O

• นอกจากนี้ Beoplay H95 Ferrari Edition ยังมาพร้อมกล่องอะลูมิเนียมสี Black Anthracite ที่มีโลโก้ B&O และ Ferrari ประทับอยู่ด้านบน ด้านในกล่องบุด้วยวัสดุคุณภาพระดับพรีเมียม ช่วยป้องกันหูฟังจากการกระแทกขณะพกพา และช่วยรักษาหูฟังให้อยู่กับคุณตราบนานเท่านาน สำหรับ Beoplay H95 Ferrari Edition วางจำหน่ายในราคา 67,000 บาท ซึ่งมีกำหนดการวางจำหน่ายในช่วงปลายปี 2566

สัมผัสประสบการณ์ที่เป็นที่สุดของดีไซน์และพลังเสียงของ Beoplay EX Ferrari Edition และ Beosound Explore Ferrari Edition ด้วยตัวคุณเองได้แล้ววันนี้ที่ Dotlife, BeTrend Paragon, King Power, Firster, Mercular และ https://www.progadgets.co.th/