17 ต.ค. 2566 24,352 1

AIS จับมือ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ขยายผลหลักสูตรอุ่นใจไซเบอร์ต่อเนื่อง ปักหมุดโรงเรียนเอกชนกว่า 4,000 แห่งทั่วประเทศ

AIS จับมือ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ขยายผลหลักสูตรอุ่นใจไซเบอร์ต่อเนื่อง ปักหมุดโรงเรียนเอกชนกว่า 4,000 แห่งทั่วประเทศ

AIS และภาคีเครือข่ายภาครัฐ กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี จับมือ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) เดินหน้าขยายผลหลักสูตร “หลักสูตรอุ่นใจไซเบอร์” ที่เป็นการยกระดับจากองค์ความรู้สู่หลักสูตรการเรียนรู้ออนไลน์ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันภัยไซเบอร์ครั้งแรกของไทย ที่ได้รับรองจากกระทรวงศึกษาธิการให้เป็นไปตามมาตรฐานของหลักสูตรการศึกษาไทย พร้อมส่งต่อให้แก่ นักเรียน ครู บุคลากรทางการศึกษาในสังกัด สช. มากกว่า 2 ล้านคน ซึ่งเป็นโรงเรียนภาคเอกชนกว่า 4,000 แห่งทั่วประเทศ ให้มีทักษะดิจิทัล และมีความรู้เท่าทันการใช้สื่อโซเชียลได้อย่างถูกต้อง ปลอดภัย สร้างเด็ก เยาวชนและคนไทยเป็นพลเมืองดิจิทัลที่มีคุณภาพ ให้สามารถใช้ชีวิตบนโลกออนไลน์ได้อย่างปลอดภัย และร่วมกันยกระดับดัชนีสุขภาวะดิจิทัล (Thailand Cyber Wellness Index) ให้เป็นไปตามมาตรฐาน


มณฑล ภาคสุวรรณ์ เลขาธิการสำนักงานส่งเสริมการศึกษาเอกชน กล่าวว่า “บทบาทของ สช. มีภารกิจในการขับเคลื่อนการศึกษาเอกชน ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงศึกษาธิการ โดยนโยบายของ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่มอบหมายไว้ คือ “เรียนดี มีความสุข” ซึ่งจะต้องมีความสมดุล ทั้งการเรียนด้านวิชาการและการมีทักษะชีวิตที่ดี เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาไปด้วยกัน โดยในปีนี้ สช.ได้กำหนดแผนยุทธศาสตร์การจัดการศึกษาของโรงเรียนเอกชน ให้พร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลโดยตรงต่อการศึกษา โดยเฉพาะความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีที่เด็กและเยาวชนรุ่นใหม่จะต้องใช้ชีวิตอยู่บนโลกออนไลน์ตลอดเวลา ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการใช้งาน และอาจตกเป็นเหยื่อของภัยคุกคามทางไซเบอร์ ดังนั้นเราจะต้องสร้างภูมิคุ้มกันที่ดี ให้นักเรียนมีองค์ความรู้ในการรับข้อมูลข่าวสารบนโลกออนไลน์ และรู้จักหลีกเลี่ยงภัยไซเบอร์ต่างๆ ที่เข้ามาหลากหลายรูปแบบ ซึ่งความร่วมมือระหว่าง AIS กับกรมสุขภาพจิต และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ในครั้งนี้ จะเป็นอีกก้าวสำคัญที่จะมาช่วยส่งเสริมยุทธศาสตร์การจัดการศึกษาของโรงเรียนเอกชนให้ยกระดับไปอีกขั้นด้วยการจัดอบรมการเรียนรู้หลักสูตรอุ่นใจไซเบอร์ให้แก่ครูและบุคลากรทางการศึกษาในสังกัด สช. ทั่วประเทศ ผ่านระบบ Online และ Onsite เพื่อให้บุคลากรทางการศึกษานำหลักสูตรดังกล่าวไปบูรณาการผ่านการเรียนการสอนที่หลากหลาย อาทิ วิชาวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ คอมพิวเตอร์ และวิทยาการคำนวณ ให้แก่นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 และจะขยายผลให้ครู บุคลากรทางการศึกษาและนักเรียนในโรงเรียนสังกัด สช. กว่า 4,000 แห่งทั่วประเทศ รวม 2,000,000 คน  ได้เริ่มเรียนรู้เนื้อหาหลักสูตรอุ่นใจไซเบอร์ภายในภาคเรียนของปีการศึกษา 2/2566 เพื่อเสริมสร้างทักษะดิจิทัล ให้สามารถรับมือและใช้ชีวิตบนโลกดิจิทัลได้อย่างปลอดภัย ตามเป้าหมายการทำงานของ สช.”


ด้าน สายชล ทรัพย์มากอุดม  หัวหน้าหน่วยธุรกิจประชาสัมพันธ์และธุรกิจสัมพันธ์ AIS หลังจากที่ก่อนหน้านี้ AIS ได้ขยายผลนำหลักสูตรอุ่นใจไซเบอร์ ส่งต่อไปยังเยาวชน นักเรียน นักศึกษาและประชาชนทั่วประเทศ ทั้งความร่วมมือกับ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ ผ่านไปยังโรงเรียนในสังกัดกว่า 29,000 แห่งทั่วประเทศ โรงเรียนในสังกัด กทม.ทั้ง 437 แห่ง รวมถึงยังขยายไปยังภาคอุดมศึกษา ทั้งมหาวิทยาลัยมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา นอกจากนี้เรายังส่งต่อไปยังภาคประชาชนผ่านหน่วยงานความมั่นคงอย่าง สกมช. รวมทั้งกลุ่มผู้สูงวัยในสหพันธ์ชมรมผู้สูงอายุ กทม.และชมรมอินเทอร์เน็ตและคอมพิวเตอร์เพื่อผู้สูงวัย หรือ OPPY CLUB By Loxley ซึ่งมีผู้เข้าอบรมหลักสูตรอุ่นใจไซเบอร์แล้วกว่า 300,000 คน


โดยการทำงานร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการศึกษาเอกชนในครั้งนี้ จะเป็นอีกก้าวสำคัญที่จะทำให้กลุ่มนักเรียนในโรงเรียนเอกชนเข้าถึงเนื้อหาหลักสูตรด้านดิจิทัล เพื่อสร้างทักษะดิจิทัลให้คนไทยมีภูมิคุ้มกัน ไม่ตกเป็นเหยื่อภัยไซเบอร์ และเป็นพลเมืองดิจิทัลที่ดีและมีคุณภาพ ในฐานะผู้ให้บริการดิจิทัลเราขอเป็นศูนย์กลางในการสร้างและส่งเสริมการใช้งานที่ถูกต้อง เหมาะสม และมีความปลอดภัยให้กับลูกค้าและคนไทยทุกกลุ่ม”

เกี่ยวกับ AIS

บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS ผู้ให้บริการดิจิทัลบนโครงข่ายอัจฉริยะ 5G ที่มีคลื่นความถี่ในการให้บริการมากที่สุดรวม 1460 MHz (นับรวมคลื่นความถี่ที่ร่วมมือกับพันธมิตรรวมถึง NT ซึ่งอยู่ระหว่างการอนุมัติจาก กสทช.) และมีจำนวนผู้ใช้งานล่าสุดกว่า 45.3 ล้านเลขหมาย (ณ มิถุนายน 2566) พร้อมขับเคลื่อนประเทศไทยด้วยเทคโนโลยี 5G ผ่าน 4 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ โทรศัพท์เคลื่อนที่, อินเทอร์เน็ตบ้านความเร็วสูงภายใต้แบรนด์ AIS Fibre, ธุรกิจลูกค้าองค์กร และบริการดิจิทัล 5 ด้าน ได้แก่ วิดีโอ คลาวด์ ดิจิทัลเพย์เมนท์ อินเทอร์เน็ตในทุกสิ่ง (IoT) และบริการร่วมกับพาร์ทเนอร์ตลอดจนขยายสู่กลุ่มธุรกิจใหม่ ทั้งหมดนี้เพื่อเดินหน้าตามวิสัยทัศน์การเป็นองค์กรโทรคมนาคมเทคโนโลยีอัจฉริยะ หรือ Cognitive Tech-Co ที่พร้อมนำศักยภาพเข้าสนับสนุนความแข็งแกร่งด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของประเทศขยายขีดความสามารถของภาคอุตสาหกรรม และยกระดับ คุณภาพชีวิตของคนไทยไปพร้อมกัน พบกับเราได้ที่ www.ais.th