16 ปีของ iPhone : Apple เปิดตัว iPhone 15 Series และ Apple Watch Series 9 ที่ Cupertino, California โดย iPhone 15 มี 4 รุ่น iPhone 15, iPhone 15 Plus และ iPhone 15 Pro กับ iPhone 15 Pro Max เปิดจอง 15 กันยานนี้ และวางจำหน่าย 22 กันยายนนี้
สำหรับ iPhone 15 มาพร้อมหน้าจอ 6.1 นิ้ว และ iPhone 15 Plus หน้าจอ 6.7 นิ้ว มาพร้อม Dynamic Island ซึ่งรุ่นเริ่มต้นก็รองรับแล้วเรียบร้อย มีการปรับดีไซน์ notch บนหน้าจอนิดหน่อย โดย iPhone 15 ใช้ชิป A16 ที่หยิบมาจาก iPhone 14 Pro ส่วนอีก 2 รุ่นโปรจะได้ใช้ A17 Pro
โดยสิ่งที่เปลี่ยนแปลงคือ กล้องของ iPhone 15 ที่ทำเอาหลายคนลังเลแน่นอน เพราะได้ภาพถ่ายสวยๆ ในระดับที่น่าพอใจแล้วในรุ่นเริ่มต้น ปรับปรุง optical zoom และกล้อง 12MP เป็น 48MP ซึ่งต้องดูภาพถ่ายจริงๆ อีกที แต่อย่างน้อยๆ iPhone 15 ก็ได้เทียบเท่า iPhone 14 Pro แล้ว
iPhone 15 มาพร้อมสี black, blue, pink, white และ yellow
iPhone 15 และ iPhone 15 Plus พร้อมวางจำหน่ายในสีชมพู สีเหลือง สีเขียว สีฟ้า และสีดำ โดยมีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลให้เลือกตั้งแต่ความจุ 128GB, 256GB และ 512GB ในราคาเริ่มต้นที่ 32,900 บาท หรือ 3,290 บาท ต่อเดือน และ 37,900 บาท หรือ 3,790 บาท ต่อเดือน ตามลำดับ
ส่วน iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max มาพร้อมความฮือฮากับวัสดุไททาเนียม และตัดเอาปุ่มเลื่อนปิด เปิดเสียง (สีส้มในตำนาน) ออกไป
การใช้ไททาเนียมทำให้ช่วยลดน้ำหนักให้เพรียวบางลง ลีนขึ้น จากเดิมเป็นสแตนเลส ที่ใช้มาตั้งแต่ iPhone X ใช้ชิป A17 ใครเอามาเล่นเกมนี่ถูกใจสุดๆ
กล้อง iPhone รุ่น Pro ความละเอียดสูง 48MP โดย iPhone 15 Pro มี 3 กล้อง กล้อง iPhone 15 Pro Max อัปเกรด 5X optical zoom
iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max สีไทเทเนียมดำ สีไทเทเนียมขาว สีไทเทเนียมน้ำเงิน และสีไทเทเนียมธรรมชาติ
ตั้งแต่วันที่ 18 กันยายนเป็นต้นไป iCloud+ จะให้บริการ 2 แผนใหม่ ได้แก่ 6TB ในราคา 999 บาทต่อเดือน และ 12TB ในราคา 1,990 บาทต่อเดือน เพื่อให้ผู้ใช้มีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลมากขึ้นสำหรับไฟล์ รูปภาพ วิดีโอ และยังปลอดภัย เข้าถึงได้สะดวก และแชร์ได้ง่ายดาย แผนบริการใหม่ดังกล่าวเหมาะกับผู้ใช้ที่มีคลังรูปภาพและวิดีโอขนาดใหญ่หรือผู้ที่ใช้การแชร์กันในครอบครัว อีกทั้งยังมาพร้อมคุณสมบัติระดับพรีเมียมมากมาย เช่น Private Relay, คุณสมบัติซ่อนอีเมลของฉัน, โดเมนอีเมลแบบกำหนดเอง และการรองรับคุณสมบัติวิดีโอ HomeKit เพื่อความปลอดภัย
นอกจากนี้ยังมีความฮือฮาของ Apple Watch Series 9 ที่มาพร้อม 'double-tap' หรือท่าจีบในตำนาน
ใช้ชิป S9 SiP เร็วกว่ารุ่นก่อน อัปเกรดสีเพิ่ม pink, starlight และ silver
การแตะสองนิ้ว คือการเอานิ้วชี้และนิ้วโป้งแตะกัน ทำให้นาฬิกาตรวจจับการเคลื่อนไหว Gesture ได้ ใช้รับสาย ควบคุมแอปต่างๆ โดยไม่ต้องแตะจอนาฬิกา
Apple Watch Series 9 ราคาเริ่มต้นที่ 15,900 บาท และ Apple Watch SE ราคาเริ่มต้นที่ 9,490 บาท
Apple Watch Ultra 2 รองรับนักกีฬา สายลุยกีฬาทางน้ำ ดำน้ำ มาพร้อมหน้าจอ Modular Ultra และรองรับ "double tap” ใช้ชิป S9 SiP เช่นกัน
Apple Watch Ultra 2 มีราคา 31,900 บาท
และจากการที่ iPhone 15 Series รองรับ USB-C แต่ก็มีความสงสัยว่า ในกล่อง แถมสายที่รองรับการชาร์จสูงสุดได้กี่วัตต์ ซึ่งบนเว็บไซต์ Apple มีจำหน่ายสายชาร์จ Apple USB-C ขนาด 60 วัตต์ และ สายชาร์จ Apple USB-C ขนาด 240 วัตต์ พร้อมระบุว่า รองรับ iPhone 15 และเคสชาร์จ AirPod ซึ่ง หาก iPhone 15 Series รองรับการจ่ายไฟสูงสุดที่ 20W แม้จะใช้อะแดปเตอร์ 35W หรือใช้สายที่รองรับกำลังไฟ 60W หรือ 240W กำลังไฟในการชาร์จสูงสุดก็ยังเท่ากับ 20W อยู่ดี (ตามกำลังไฟสูงสุดที่ตัวเครื่องรองรับ)
เรียบเรียงจาก USAtoday
