31 มี.ค. 2566 628 2

'ชัยวุฒิ' ดีอีเอส ลั่นโทษหนัก เผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคลผิดกฏหมาย กรณี 9 near ล้วงคนไทย 55 ล้านราย

'ชัยวุฒิ' ดีอีเอส ลั่นโทษหนัก เผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคลผิดกฏหมาย กรณี 9 near ล้วงคนไทย 55 ล้านราย

ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวถึงกรณี ผู้ใช้งานบัญชี “9nearได้โพสต์ขายข้อมูลที่อ้างว่าเป็นข้อมูลส่วนตัวของคนไทยกว่า 55 ล้านรายการ บนเว็บไซต์ bleach forums โดยอ้างว่าได้มาจากหน่วยงานรัฐแห่งหนึ่งในไทย (Somewhere in government) และโพสต์ตัวอย่างไฟล์ ซึ่งมี ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ วันเกิด เบอร์โทรศัพท์ และเลขประจำตัวประชาชน รวมทั้งมีการโพสต์ลักษณะข่มขู่หน่วยงานและประชาชนในวงกว้าง




โดยวันที่ 30 มี.ค. 66 เว็บไซต์ 9near.org (https://9near.org/) ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับบัญชี 9near โพสต์ขายข้อมูลบนเว็บไซต์ Bleach Forums ได้แอบอ้างใส่ชื่อ นายปริญญา หอมเอนก (อ.ปริญญาฯ) เป็นผู้สนับสนุน (Sponsored By …) พร้อมทั้ง นำ Youtube Video Clip สัมภาษณ์ อ.ปริญญาฯ รายการ Digital Life Spring ช่อง Spring News ใส่บนเว็บไซต์ด้วย ในเว็บไซต์ มีลิงก์ดาวน์โหลดไฟล์ข้อมูล (!! Download !!) ซึ่งเป็นไฟล์ข้อมูลรายชื่อ วันเกิด ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ โดยมีการปิดบังในลักษณะ xxxx ไม่แสดงข้อมูลทั้งหมด ส่วนด้านล่างของเว็บไซต์ได้ระบุข้อความในลักษณะข่มขู่ให้ผู้คิดว่าข้อมูลของตนรั่วไหล ติดต่อกลับไปก่อนวันที่ 5 เม.ย. 16.00 น. เวลาประเทศไทย ไม่เช่นนั้นจะทำการเผยแพร่ข้อมูล ทั้งนี้ อ.ปริญญาฯ ได้เข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) แล้ว ในวันเดียวกัน

ด้านผู้ประกาศข่าว นายสรยุทธ์ สุทัศนจินดา ได้โพสต์ข้อความใน facebook ส่วนตัว ว่าได้รับข้อความ SMS ข้อมูลส่วนบุคคลของตน ประกอบด้วย เลขบัตรประชาชน 13 หลัก, วันเดือนปีเกิด, ที่อยู่ , เบอร์มือถือจาก 9near  



ทั้งนี้ รัฐมนตรีชัยวุฒิ กล่าวถึงแนวทางการดำเนินการของกระทรวงดิจิทัลฯ ว่า

 1) ได้ประสานผู้ให้บริการ domain name สำหรับเว็บไซต์ 9near.org (Namesilo, LLC) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการในต่างประเทศ เพื่อขอปิดกั้นเว็บไซต์ 9near.org ตั้งแต่วันพุธที่ 29 มี.ค. 66 เวลา 19.00 น. เนื่องจากมีการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลของผู้อื่น และระบุข้อความในลักษณะข่มขู่ให้ผู้คิดว่าข้อมูลของตนรั่วไหล ติดต่อกลับไป ซึ่งเข้าข่ายกระทบต่อความมั่นคงของประเทศทำให้ประชาชนตื่นตระหนก ซึ่งขณะนี้ ยังไม่ได้รับการตอบรับหรือดำเนินการจากผู้ให้บริการ

 2) อยู่ระหว่างดำเนินการขอคำสั่งศาลตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งอาจเข้าข่าย

• มาตรา 14 (2) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือโครงสร้างพื้นฐานอันเป็นประโยชน์สาธารณะของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน  หรือ

• มาตรา 20 (2) ข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่อาจกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรตามที่กำหนดไว้ในภาค 2 ลักษณะ 1 หรือลักษณะ 1/1 แห่งประมวลกฎหมายอาญา

ในขณะเดียวกัน กระทรวงฯ อยู่ระหว่างประสานผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตในประเทศ (เช่น AIS True NT) เพื่อดำเนินการปิดกั้นเว็บไซต์ดังกล่าวด้วย นอกจากนี้ ดศ. อยู่ระหว่างประสานสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) เพื่อสอบถามข้อมูลว่ามีหน่วยงานภาครัฐแจ้งว่ามีข้อมูลรั่วไหลหรือไม่



ทั้งนี้ โทษที่เกี่ยวข้องสูง โดยความผิดตาม พรบ. คอมพิวเตอร์ ฯ โทษสูงสุด จำคุก 5 ปี และการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้อย่างผิดกฎหมาย เข้าข่ายผิด พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล อาจถูก จำคุก 1 ปี หรือปรับ 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ต่อ 1 กรรม หรือต่อผู้เสียหาย 1 คน ได้ ซึ่งทำให้คนร้ายอาจถูกลงโทษจำคุกเป็นร้อยปีได้ขึ้นกับข้อเท็จจริง และข้อมูลที่นำไปใช้กระทำผิดกฎหมายหรือเผยแพร่ทำให้ผู้อื่นเสียหาย

3) ดศ. ได้ประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อหาข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้อง และดำเนินการหาตัวผู้กระทำความผิด

ชัยวุฒิ กล่าวว่า ได้สั่งการให้เร่งจัดการอย่างเรื่องนี้อย่างเด็ดขาด ประสานตำรวจหาหลักฐานและตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษ และขอฝากเตือนไปยังผู้ที่จะนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ผิดกฎหมาย ระวังโทษหนัก ทั้งจำคุกทั้งปรับ

ประชาชนที่พบปัญหาความปลอดภัยไซเบอร์ ติดต่อ call center กระทรวงดิจิทัลฯ 1212 หรือ สายด่วน ตำรวจไซเบอร์ 1441