13 ก.พ. 2566 374 0

สดช. เดินหน้าพัฒนาระบบพัฒนาประสิทธิภาพการวัดมูลค่าเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Contribution to GDP) โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล

สดช. เดินหน้าพัฒนาระบบพัฒนาประสิทธิภาพการวัดมูลค่าเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Contribution to GDP) โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล

วันนี้ (13 กุมภาพันธ์ 2566) ภุชพงค์ โนดไธสง เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นประธานเปิดการสัมมนาเพื่อเผยแพร่ระบบพัฒนาประสิทธิภาพการวัดมูลค่าเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Contribution to GDP) โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล โดยมี เอกพงษ์ หริ่มเจริญ รองเลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พร้อมด้วย พลอยรวี เกริกพันธ์กุล ผู้อำนวยการกองขับเคลื่อนดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจ เข้าร่วมด้วย ณ โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ และผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์


ภุชพงค์ กล่าวว่า จากนโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ตั้งเป้าหมายว่าภายในปี 2570 ประเทศไทยต้องอยู่ในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว สามารถใช้เทคโนโลยีดิจิทัลสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและคุณค่าทางสังคมอย่างยั่งยืน ซึ่งหนึ่งในตัวชี้วัดหรือเป้าหมายที่สำคัญคือสัดส่วนมูลค่าเพิ่มของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีดิจิทัลต่อ GDP เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 ดังนั้น เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายสำคัญดังกล่าว สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) จึงดำเนินการจัดทำโครงการพัฒนาประสิทธิภาพการวัดมูลค่าเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Contribution to GDP) โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อปรับปรุงและพัฒนาประสิทธิภาพการวัดมูลค่าเศรษฐกิจดิจิทัลและผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ

อันเป็นผลจากเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy Contribution to GDP) ที่สอดคล้องกับทิศทางการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างระบบเศรษฐกิจ และเพื่อเกิดเป็นรูปแบบแนวทางการวิเคราะห์เชิงวิชาการ เพื่อสนับสนุนการวางแผนการกำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์การพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน


“โครงการพัฒนาประสิทธิภาพการวัดมูลค่าเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Contribution to GDP) โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เป็นโครงการที่ช่วยติดตามการวัดมูลค่าเศรษฐกิจดิจิทัลและผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศได้สะดวก รวดเร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาตัวแบบจำลองตัวชี้วัดเร็วเพื่อติดตามเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy Rapid Trackers: DERT) โดยใช้ข้อมูลจากภายนอกที่เกี่ยวข้องกับการวัดมูลค่าเศรษฐกิจดิจิทัล จากหลายหน่วยงาน ทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งจะช่วยศึกษาและพยากรณ์แนวโน้มของมูลค่าเศรษฐกิจดิจิทัลได้อย่างทันการณ์ เพื่อให้สามารถนำข้อมูลการวัดมูลค่าเศรษฐกิจดิจิทัลไปใช้ในการสนับสนุน การวางแผน การกำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์การพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทย โดย สดช. ได้ดำเนินการสรุป รวบรวม และเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ให้กับทุกภาคส่วนในรูปแบบของเว็บไซต์ dgdp.onde.go.th ทั้งนี้ โครงการฯ ดังกล่าว มีการดำเนินงาน 2 ส่วน คือ 1) ส่วนของการพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการวัดมูลค่าเศรษฐกิจดิจิทัล และ 2) ส่วนของการศึกษาจัดทำแบบจำลอง (Model) โดยจัดทำเครื่องชี้เร็วเพื่อติดตามเศรษฐกิจดิจิทัล (Rapid Digital Economy Trackers: RaDET) ซึ่งเป็นแบบจำลองเพื่อศึกษาแนวโน้มของการเปลี่ยนแปลงมูลค่าทางเศรษฐกิจดิจิทัล โดยสามารถติดตามการเปลี่ยนแปลงได้เป็นรายเดือน ” ภุชพงค์ กล่าว


เอกพงษ์ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับงานสัมมนาในวันนี้ เป็นการนำผลการดำเนินโครงการมาเผยแพร่ประชาสัมพันธ์สู่สาธารณะ และเพื่อให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาทราบถึงความสำคัญในการวัดมูลค่าเศรษฐกิจดิจิทัล และหน่วยงานภาครัฐมีแนวทางการนำไปใช้ประโยชน์ในการกำหนดนโยบายและมาตรการเพื่อส่งเสริมการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือทบทวนและปรับปรุงให้มีความเหมาะสม และสอดคล้องกับบริบทด้านดิจิทัลของประเทศ และในส่วนหน่วยงานภาคเอกชน ผู้ประกอบการสมาคม และสภาธุรกิจ สามารถนำไปใช้ในการวางแผนและประกอบธุรกิจที่ตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคในยุคดิจิทัลต่อไป โดยภายในงานสัมมนาฯ มีการบรรยายและนำเสนอผลการศึกษาระบบพัฒนาประสิทธิภาพการวัดมูลค่าเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Contribution to GDP) โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในหัวข้อต่างๆ อาทิ ภาพรวมและผลการดำเนินโครงการ ผลการศึกษา การรวบรวมข้อมูล แนวคิดการพัฒนาการวัดมูลค่าเศรษฐกิจดิจิทัลโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล และผลสรุปการพัฒนาเครื่องชี้เร็วสำหรับการวัดมูลค่าเศรษฐกิจดิจิทัล รวมทั้งได้มีการบรรยายเกี่ยวกับ Dashboard ระบบพัฒนาประสิทธิภาพการวัดมูลค่าเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Contribution to GDP) โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอีกด้วย