26 ต.ค. 2565 781 7

AXONS ผงาดผู้นำโซลูชั่น AgriTech ยกระดับอุตสาหกรรมเกษตรและการจัดการห่วงโซ่อาหารของไทยสู่สากล

AXONS ผงาดผู้นำโซลูชั่น AgriTech ยกระดับอุตสาหกรรมเกษตรและการจัดการห่วงโซ่อาหารของไทยสู่สากล

AXONS หรือ แอ๊กซอน แบรนด์เทคโนโลยีของไทยที่มุ่งสู่ความเป็นผู้นำด้านเกษตรเทคโนโลยี (AgriTech) ในระดับสากล เพื่อช่วยยกระดับอุตสาหกรรมเกษตรและการจัดการห่วงโซ่อาหารของไทยเชื่อมโยงระดับโลกอย่างครบวงจร โดยอยู่เบื้องหลังความสำเร็จด้านเทคโนโลยีของ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ในการก้าวสู่ “ครัวของโลก” ได้อย่างงดงาม  ด้วยกลยุทธ์ Driving Future for Lives เพื่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้บริโภคทั่วโลก พร้อมเตรียมเปิดตัวเป็น โอเพ่น แพลตฟอร์ม" (Open Platform) นำเทคโนโลยีที่พัฒนาด้วยมาตรฐานสากลระดับโลกมาเปิดโอกาสให้เกษตรกร ลูกค้าและคู่ค้า สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีในการขยายและต่อยอดธุรกิจได้ง่ายขึ้น  เสริมศักยภาพเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไปด้วยกัน


สรรเสริญ สมัยสุต กรรมการผู้จัดการและผู้บริหารแบรนด์ AXONS กล่าวว่า ธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารทั่วโลกกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างพลิกโฉม ขณะที่โครงสร้างประชากรมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเป็น 10,000 ล้านคนในปี 2593 สวนทางพื้นที่การเกษตรที่ลดลง ด้วยเหตุนี้เทคโนโลยีจึงจำเป็นต้องเข้ามามีบทบาทอย่างมาก ในการเพิ่มปริมาณอาหารเพื่อตอบสนองจำนวนประชากรโลกและความต้องการของคนที่มากขึ้น ทั้งการผลิตพืชผลการเกษตร การทำฟาร์มปศุสัตว์ และการแปรรูปอาหาร จนถึงจุดสิ้นสุดของห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) การเข้าถึงเทคโนโลยีจะช่วยให้ต้นทุนการผลิตอาหารลดลง บนคุณภาพและประสิทธิภาพการผลิตที่สูงขึ้น


ทั้งนี้ ประเทศไทยมีโครงสร้างพื้นฐานด้านเกษตรกรรมที่แข็งแกร่ง มีสถานะเป็นครัวของโลก มีจีดีพีภาคเกษตรกรรมสูงถึง 1.38 ล้านล้านบาท ดังนั้น การมุ่งพัฒนา AgriTech จะช่วยยกระดับและผลักดันให้ไทยก้าวขึ้นเป็นประเทศผู้นำด้านเกษตรกรรมที่โดดเด่นในเวทีโลกและจะเป็นตัวแปรสำคัญในการเปลี่ยนแปลงและยกระดับคุณภาพชีวิตของคนทั่วโลก





ขณะที่
AXONS (แอ๊กซอน) มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาไอทีโซลูชันในธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารแบบครบวงจร ภายใต้กลยุทธ์ “Driving Future for Lives- ขับเคลื่อนอนาคตสู่คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น”  โดยอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของบริษัทชั้นนำมาเป็นเวลากว่า 40 ปี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "ซีพีเอฟ"  ซึ่งมีห่วงโซ่ธุรกิจด้านอาหารที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีกิจการในกว่า 17 ประเทศ และ





ส่งออกไปอีกกว่า
40 ประเทศ รวมถึง บริษัทอื่นๆ อีกกว่า 250 แห่ง ให้บริการสู่ผู้ใช้งานกว่า 250,000 คน ดูแลคุณภาพอาหารและคุณภาพชีวิตของผู้คน ตั้งแต่ฟาร์มถึงโต๊ะอาหารของประชากรทั่วโลกกว่า 40,000 ล้านคน



"
ปัจจุบันอุตสาหกรรมเทคโนโลยีเกษตรระดับโลกมีมูลค่าถึง 17,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และคาดว่าจะเติบโตถึง 4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐในอีก 5 ปีข้างหน้า จึงเป็นโอกาสสำคัญสำหรับแอ๊กซอนที่จะก้าวสู่การเติบโตในระดับโลก เพราะเราไม่ใช่แค่นักพัฒนาซอฟต์แวร์ แต่เราพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คนด้วย โดยในอนาคตจะก้าวสู่การเป็น โอเพ่น แพลตฟอร์ม" (Open Platform) ที่เปิดโอกาสให้เกษตรกร ลูกค้า และคู่ค้าเข้ามามีส่วนร่วมในการขยายเครือข่ายและเติบโตควบคู่ไปด้วยกัน ช่วยเสริมศักยภาพเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างเต็มที่ ซึ่งจะเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจให้ประเทศไทย ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางเกษตรเทคโนโลยีระดับโลกสรรเสริญ กล่าว



ทั้งนี้ แอ๊กซอน (
AXONS) เพิ่งคว้า 3 รางวัลชนะเลิศจากเวทีระดับภูมิภาค “Asian Technology Excellence Awards 2022” ครอบคลุมเทคโนโลยี Mobile ในด้านอุตสาหกรรมเกษตร (Agriculture) เทคโนโลยี Enterprise Software สำหรับกลุ่มธุรกิจ (Conglomerates) และเทคโนโลยี Blockchain สำหรับอุตสาหกรรมค้าปลีก (Retail) ตอกย้ำศักยภาพด้านดิจิทัลที่มีบทบาทสำคัญในการผลักดันให้ห่วงโซ่การผลิตอาหารของไทยประสบความสำเร็จ ก้าวสู่การเป็นครัวของโลกได้อย่างยั่งยืน  



Adslthailand สอบถามเพิ่มเติมกับคุณสรรเสริญ ระบุว่า นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไปเกษตรเทคกำลังจะมา เนื่องจากโครงสร้างพื้นฐานและโครงข่ายอินเตอร์เน็ตที่ครอบคลุมประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้วสามารถนำมาต่อยอดไปสู่เกษตรเทคได้อย่างง่ายดาย อุปกรณ์ที่เกษตรกรใช้ในปัจจุบันมีราคาถูกลงไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์สมาร์ทโฟนและอุปกรณ์ iot ต่างๆ สามารถนำไปสู่ตลาดแมสได้ง่ายขึ้น ซึ่งทำให้ประเทศไทยสามารถเปลี่ยนผ่านไปยังเกษตรยุคใหม่ได้

ซึ่งเราเองอยู่เบื้องหลังอาหารทุกจานทั้งซอฟต์แวร์ในการจัดการโรงงาน  ซอฟต์แวร์ในการแปรรูปสินค้าต่างๆ  ซอฟต์แวร์เรื่องของการบริหารโลจิสติกส์  ซอฟต์แวร์ช่อง การขาย  ซอฟต์แวร์การตรวจสอบย้อนกลับ  ทั้งหมดนี้มีเทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลังมากมายการที่เราจะต้องซื้อซอฟต์แวร์ระดับโลกมาใช้งานมันยากมากเพราะไม่มีใครจะทำทุกเรื่องได้เหมือนกับที่เราได้ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน

การพัฒนาซอฟต์แวร์ของเราใช้ระยะเวลามากกว่า 40 ปีที่เกิดจากฝีมือคนไทยเราสามารถดูแลตลอดห่วงโซ่อุปทานได้ในสไตล์ของคนไทยแต่ฝีมือระดับโลก เราไม่อยากจะมองว่าทุกบริษัทซื้อเทคโนโลยีแล้วจะเป็นจุดเปลี่ยนเพราะเนื่องจากราคาสินค้าที่จัดจำหน่ายล้วนแล้วแต่ราคาเท่าๆกันทั้งนั้นแต่เราเองเป็นบริษัทหลังบ้านที่เข้าใจธุรกิจการเกษตรของคนไทยและเข้าใจตรวทเกษตรกรอีกด้วยเราจึงนำจุดแข็งนี้มาช่วยบริหารจัดการให้การเกษตรรูปแบบเดิมกลายเป็นเกษตรเทคได้อย่างมีประสิทธิภาพ



ความพิเศษอีกประการหนึ่งคือเทคโนโลยีไม่ได้ใช้เฉพาะบริษัทของเราเท่านั้นแต่เทคโนโลยีสามารถเข้าถึงพันธมิตรคู่ค้าของเราทั้งหมดซึ่งเราจะเป็นแพลตฟอร์มเปิดเพิ่มมากขึ้นโดยเปิดให้คู่ค้าของเราเข้าถึงซอฟต์แวร์ที่มีราคาจับต้องได้และเราก็ยินดีต้อนรับสตาร์ทอัพที่มีความรู้มากกว่าเรามาร่วมแชร์เทคโนโลยีและพัฒนาต่อยอดจะทำให้เราสามารถโตได้อย่างก้าวกระโดด