24 ส.ค. 2565 590 0

Zoom เปิดงานวิจัยล่าสุด “อนาคตการศึกษา: บทเรียนจากครูผู้สอน”ชี้นักการศึกษาที่ดีต้องใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลให้เป็น

Zoom เปิดงานวิจัยล่าสุด “อนาคตการศึกษา: บทเรียนจากครูผู้สอน”ชี้นักการศึกษาที่ดีต้องใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลให้เป็น

อนาคตการศึกษาในเอเชียแปซิฟิกขึ้นอยู่กับความสามารถของครูในการสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ที่ต่อเนื่องและนักเรียนมีส่วนร่วมโดยใช้วิธีการเรียนการสอนแบบผสมผสาน

Zoom Video Communications, Inc. (NASDAQ: ZM) หรือ ซูม (ZOOM) เปิดเผยรายงานการวิจัยล่าสุด “อนาคตการศึกษา: บทเรียนจากครูผู้สอน” ที่แสดงให้เห็นถึงความต้องการของสถาบันการศึกษาในเอเชียแปซิฟิกในการพัฒนาทักษะของบุคลากรในการใช้เทคโนโลยีเพื่อการเรียนสอน โดยมุ่งเน้นให้ดิจิทัลแพลตฟอร์มเป็นเครื่องมือช่วยพัฒนาการสอนสำหรับครู การช่วยให้ครูที่มีเวลาจำกัดสามารถสอนออนไลน์ในเวลาที่สะดวก และช่วยในการฝึกอบรมการสอน ผ่านการอัดวีดีโอในห้องเรียน เพื่อสามารถมอร์นิเตอร์การสอนของครูเพื่อนำมาปรับปรุงพัฒนาได้โดยง่าย

เนื่องจากวิธีการดั้งเดิมของการเรียนการสอนในห้องเรียนไม่ใช่วิธีการที่มีประสิทธิภาพอีกต่อไป การศึกษาจำเป็นต้องพัฒนาอย่างมากและรวดเร็วเพื่อลดอุปสรรคต่อผู้เรียนทั่วโลกให้เหลือน้อยที่สุด ครูและผู้บริหารสถานศึกษาจำเป็นต้องทำงานเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าเพื่อจัดทำหลักสูตรการเรียนการสอนแบบดิจิทัล และประยุกต์กรอบแนวคิดศาสตร์การสอน ให้เข้ากับความเป็นจริงใหม่ของการศึกษา ในขณะที่ชั้นเรียนในห้องเรียนจริงกลับมาทำได้เป็นปกติอีกครั้ง แต่หลายโรงเรียนในเอเชียแปซิฟิกยังทำการเรียนการสอนแบบไฮบิดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหมายความว่าบทเรียนที่นักการศึกษาได้รับระหว่างการแพร่ระบาดของโควิด 19 ได้มีความสำคัญอย่างมากต่อการกำหนดอนาคตของนวัตกรรมการศึกษาในภูมิภาคนี้

Zoom ได้เปิดรายงานวิจัยเรื่องนี้ระหว่างการประชุม Zoom APAC Education Summit ที่ประมวลการเปลี่ยนผ่านสู่การเรียนรู้ในรูปแบบออนไลน์ที่สำคัญในสถานการณ์โควิด 19 รวมถึงคำแนะนำที่จะช่วยให้ครูและผู้บริการสถาบันการศึกษาสร้างอนาคตของการศึกษาในแบบผสมผสานระหว่างออนไลน์และออฟไลน์ งานวิจัยนี้จัดทำขึ้นโดย Intelligence Business Research Services (IBRS) หน่วยงานเชี่ยวชาญด้านข้อมูลและการสื่อสารจากประเทศออสเตรเลีย โดยมี Zoom เป็นผู้สนับสนุน

งานวิจัยเชิงคุณภาพนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับผลกระทบที่มีต่อครูและผู้บริหารสถาบันการศึกษาในเอเชียแปซิฟิคซึ่งเป็นประเด็นที่ยังไม่ค่อยได้รับความสนใจ งานวิจัยวิเคราะห์ข้อมูลจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องที่มีบทบาทสำคัญ เช่น ครู ผู้นำหลักสูตร ผู้นำด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม และผู้บริหารมหาวิทยาลัย 

ดร.เจา สวีนี่ย์ ที่ปรึกษาจาก IBRS กล่าวว่า “การระบาดของโควิด 19 ทำให้เราเห็นความความสามารถในการปรับตัวได้เป็นอย่างดีของภาคการศึกษา โดยสถาบันการศึกษาสามารถใช้เครื่องมือดิจิทัลได้อย่างรวดเร็วเพื่อมอบประสบการณ์การเรียนรู้ที่ต่อเนื่องและเข้าถึงได้ง่ายแก่นักเรียน และเพื่อช่วยให้ครูรับมือกับการเรียนการสอนที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เราจำเป็นต้องบูรณาการดิจิทัลโซลูชั่นและแพลตฟอร์มต่างๆ เข้ากับระบบนิเวศที่มีความสอดคล้องกัน และสามารถทำให้การเรียนการสอนทั้งแบบการเรียนการสอนในห้องเรียนและแบบออนไลน์เป็นเรื่องสะดวก”

ริคกี้ คาเปอร์, หัวหน้าภาคพื้นเอเชียแปซิฟิค จาก Zoom กล่าวว่า “Zoom มุ่งมั่นในการช่วยให้ทุกคนเข้าถึงการศึกษา นั่นหมายความว่า เราให้การสนับสนุนครูด้วยแพลตฟอร์มทางด้านเทคโนโลยีในการสร้างอนาคตของการศึกษาหลังโควิด 19 ซึ่งอาจแตกต่างกันไปตามสถาบัน ดังที่รายงานฉบับนี้ชี้ให้เห็นว่า  เทคโนโลยีด้านการสื่อสารมีความสำคัญอย่างมากที่จะช่วยให้ครูทำการสอนทางไกลอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ตรงตามวัตถุประสงค์ และทำนักเรียนรู้สึกมีส่วนร่วมมากที่สุด”

ประเด็นสำคัญในรายงาน“อนาคตการศึกษา: บทเรียนจากครูผู้สอน”

สร้างเวลาหน้าจอ (screen time) ที่มีความหมาย: สถาบันการศึกษาทุกสถาบันที่เข้าร่วมการวิจัยมีความคิดเห็นว่า เวลาหน้าจอจำเป็นต้องได้รับการบริหารจัดการอย่างเป็นรูปธรรมโดยโรงเรียน สถาบันการศึกษาจำเป็นต้องทำให้การเรียนการสอนออนไลน์เป็นไปตามวัตถุประสงค์และสมดุลกับการเรียนการสอนรูปแบบอื่นๆ การบันทึกวิดีโอและการทำงานร่วมกันสามารถนำไปใช้เพื่อกำหนดเวลาหน้าจอและค้นหาว่ายังมีสิ่งใดที่จำเป็นต้องได้รับการพัฒนา

คอนเทนต์แบบ “Drag and drop” ไม่มีประโยชน์: ในช่วงต้นของโควิด 19 ครูหลายคนเพียงแค่นำข้อมูลความรู้ที่มีอยู่เข้าไปในระบบ Learning Management System (LMS) เพื่อสอนนักเรียน อย่างไรก็ตามงานวิจัยพบว่า นักเรียนไม่พึงพอใจกับคอนเทนต์แบบ “Drag and drop” โดยสถาบันการศึกษาทั้งในระดับ K-12 และอุดมศึกษารายงานว่า การเรียนการสอนแบบผสมผสานจำต้องมีการเปลี่ยนแปลงในด้านของคอนเทนต์ นอกเหนือจากการเปลี่ยนแปลงด้านวิธีการเรียนการสอน ผู้สอนยังพบว่าการแลกเปลี่ยนคอนเทนต์ออนไลน์ทำได้ง่ายกว่า และยังง่ายกว่าด้วยที่จะทำงานร่วมกันกับผู้สอนคนอื่นๆในการสอนออนไลน์  

การเข้าถึงอย่างเท่าเทียมมีความสำคัญ: สถาบันการศึกษาทุกสถาบันที่เข้าร่วมการวิจัยรายงานว่า นักเรียนบางคนมีปัญหาเรื่องการเชื่อมต่อหรือไม่มีอุปกรณ์ที่จะช่วยให้พวกเขามีส่วนร่วมกับการเรียนออนไลน์ได้อย่างเต็มที่ แม้ว่าปัญหานี้จะเป็นเกี่ยวข้องกับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน บางโรงเรียนมีการปรับเปลี่ยนการสอนเพื่อจำกัดแบนด์วิธ เช่น ใช้วิดีโอที่มีความยาวและขนาดที่สั้นลง ย่อเนื้อหาการเรียนรู้ ฯลฯ

สร้างบรรทัดฐานใหม่สำหรับการศึกษาแบบ timeshifting: สถาบันการศึกษาหลายสถาบันพบปัญหาด้านเวลาของผู้สอนและความคาดหวังของนักเรียน เนื่องจากนักเรียนนำกรอบทางสังคมของการสื่อสารกับเพื่อนไปใช้กับการมีปฏิสัมพันธ์กับครู ส่งผลให้เกิดความคาดหวังที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง เป็นความคาดหวังว่าครูสามารถตอบข้อความในตอนกลางคืน ดังนั้นจึงควรลงทุนในโซลูชั่นด้านการศึกษาที่รองรับการเรียนรู้แบบ timeshift โดยใช้รูปแบบการสื่อสารต่างๆ

การให้ความสำคัญการพัฒนาทางอาชีพสำหรับครู: สถาบันการศึกษาที่ประสบปัญหาเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีรายงานว่า ข้อจำกัดด้านเวลาสำหรับการพัฒนาด้านอาชีพเป็นปัญหาที่มีความรุนแรงมากที่สุด พฤติกรรมการสอนของครูในแต่ละยุคทำให้เกิดความกังวลว่าครูอาวุโสอาจจะไม่คุ้นเคยกับการฝึกอบรมเพื่อใช้เครื่องมือดิจิทัล อย่างไรก็ตามพบว่าครูหลายคนยังต้องการการฝึกอบรมออนไลน์ เช่นเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นในระหว่างการแพร่ระบาดของโควิด 19

ทั้งนี้ งานวิจัยฉบับนี้ IBRS ได้จัดทำขึ้นจาการสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 12 เคส ระหว่างเดือนมกราคมและเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ โดยผู้ให้สัมภาษณ์เป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับการให้การศึกษาโดยตรง อาทิ ผู้จัดทำหลักสูตร ผู้พัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านการศึกษา หัวหน้าครู และกัวหน้าศูนย์การเรียนรู้ เป็นต้น นอกจากบทบาทของผู้ใหสัมภาษณ์แล้ว งานวิจัยชิ้นนี้ ยังสุ่มตัวอย่างการสัมภาษณ์จากสถาบันการศึกษาในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคที่มีสถานะทางเศรษฐกิจที่แตกต่างกัน นอกจากนั้น IBRS ยังรวมเอาข้อมูลที่ได้มาจากการสัมภาษณ์ผู้เกี่ยวข้องในภาคการศึกษาอีกกว่า 60 ครั้ง และผู้ตอบแบบสอบถามจำนวน 390 คน ตั้งแต่ปี 2564

เกี่ยวกับ Zoom

Zoom สร้างมาเพื่อคุณ Zoom เป็นพื้นที่ที่คุณสามารถเชื่อมต่อกับผู้อื่น แลกเปลี่ยนความคิดเห็น วางแผน และสร้าง อนาคตเหนือจินตนาการ แพลตฟอร์มด้านการติดต่อสื่อสารที่ลื่นไหลไม่สะดุดของเราเป็นแพลตฟอร์มเดียวที่เริ่มมาจากวิดีโอ เราสร้างมาตรฐานสำหรับนวัตกรรมตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา นี่เป็นสิ่งที่ทำให้เราใช้งานได้ง่าย รองรับความต้องการการใช้ที่เพิ่มขึ้น และปลอดภัยสำหรับบริษัทขนาดใหญ่ บริษัทขนาดเล็ก รวมถึงผู้ใช้ทั่วไป Zoom ก่อตั้งในปี 2011 และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (NASDAQ:ZM) มีสำนักงานใหญ่ในเมืองซานโฮเซ แคลิฟอร์เนีย พบกับเราได้ที่ zoom.com และ @zoom