28 ม.ค. 2563 1,821 62

การท่าอากาศยานอู่ตะเภา และ AIS ร่วมมืออีกขั้นของ Smart Airport Terminal ทดลองใช้ 5G และ หุ่นยนต์ AI ยกระดับบริการสนามบิน

การท่าอากาศยานอู่ตะเภา และ AIS ร่วมมืออีกขั้นของ Smart Airport Terminal ทดลองใช้ 5G และ หุ่นยนต์ AI ยกระดับบริการสนามบิน

อีกทั้ง เพื่อเป็นโครงการต้นแบบในการร่วมพัฒนาอาคารผู้โดยสารในสนามบินที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต ที่จะขยายขีดความสามารถในการให้บริการของท่าอากาศยาน พร้อมรับความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ การลงทุน อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการขนส่ง ตามแผนเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก EEC ภายใต้นโยบาย Thailand 4.0

การท่าอากาศยานอู่ตะเภา ให้ความไว้วางใจ ร่วมพัฒนาดิจิทัลโซลูชันส์ กับเอไอเอส สำหรับอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 มาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เดือนกันยายน 2561  ในครั้งนี้ จึงเป็นการขยายความร่วมมือไปอีกขั้น เพื่อเตรียมการรองรับเทคโนโลยี 5G ที่กำลังจะมาถึง โดยเอไอเอสในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยี มีศักยภาพทั้งด้านเครือข่ายความเร็วสูง และบุคลากรผู้เชี่ยวชาญ พร้อมรองรับการทำโซลูชั่นส์ Smart Airport Terminal ร่วมกับพันธมิตรทุกภาคส่วน เพื่อสร้างนวัตกรรมดิจิทัลที่ทันสมัยล่าสุดให้กับภาคธุรกิจการบิน

โดยขยายความร่วมมือในการนำเครือข่าย 5G มาศึกษาและทดลองทดสอบพัฒนาโซลูชันส์ที่เหมาะสมกับภาคธุรกิจการบิน และเสริมศักยภาพการบริหารจัดการภายในอาคารผู้โดยสาร และนำหุ่นยนต์อัจฉริยะ AI (Artificial Intelligence) มาช่วยในงานบริการผู้โดยสาร สามารถให้ข้อมูลพื้นฐาน รวมทั้งช่วยนำลูกค้าไปยังจุดให้บริการต่างๆ ที่ต้องการ ในลักษณะของ Guide & Go และโต้ตอบกับผู้ใช้ได้แบบอินเทอร์แอคทีฟ มัลติมีเดีย

จากที่เคยเปิดให้บริการดิจิทัลใน 2 ส่วนหลักไปแล้ว ได้แก่ 1. แอปพลิเคชัน Thailand Smart Airport บริการข้อมูลด้านการบินและสนามบินหลากหลายในแอปฯ เดียว 2. เทคโนโลยีระบบวิเคราะห์และประมวลผลภาพวิดีโออัจฉริยะ ใช้เป็นระบบตรวจจับและรับรู้ใบหน้าบุคคลและสิ่งของในพื้นที่อาคารสนามบิน, ตรวจจับวัตถุต้องสงสัย แจ้งเตือนกรณีมีวัตถุถูกวางทิ้งไว้เป็นเวลานานผิดปกติ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านระบบรักษาความปลอดภัย และการบริหารจัดการท่าอากาศยานของกองทัพเรือไทย

พลเรือโท กฤชพล เรียงเล็กจำนงค์ ผู้อำนวยการการท่าอากาศยานอู่ตะเภา กล่าวว่า “รัฐบาลได้เล็งเห็นความสำคัญตลอดจนศักยภาพในทุกมิติของท่าอากาศยานอู่ตะเภา โดยสนับสนุนให้มีการบริหารจัดการเชิงพาณิชย์ เพื่อให้สอดคล้องกับการพัฒนาพื้นที่สนามบินแห่งใหม่ในโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก การท่าฯ จึงได้ร่วมมือกับภาคเอกชนที่มีความเชี่ยวชาญ ในการนำเทคโนโลยีดิจิทัล เข้ามายกระดับการให้บริการและการบริหารอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ให้ทันสมัย ตอบสนองความต้องการของผู้โดยสาร เชื่อมโยงและสนับสนุนการเดินทาง การขนส่งทางอากาศ ให้เกิดความพร้อมสู่การเป็นสนามบินพาณิชย์แห่งที่ 3 ของกรุงเทพมหานคร เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในประเทศ และส่งเสริมเขตเศรษฐกิจพิเศษ รวมทั้งการเชื่อมโยงผู้โดยสารกับสนามบินดอนเมือง สนามบินสุวรรณภูมิ และเป็น Aviation Hub หลักของภูมิภาคอีกด้วย”

ที่ผ่านมา การท่าฯ จึงได้ร่วมมือกับบริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด บริษัทในเครือของเอไอเอส ในฐานะผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่อันดับ 1 และผู้นำด้านดิจิทัลของประเทศ พัฒนาบริการดิจิทัล ระบบคอมพิวเตอร์และระบบสื่อสาร เพื่อให้บริการในพื้นที่อาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 กระทั่งนำมาสู่การขยายความร่วมมือเพิ่มเติมในครั้งนี้ เพื่อต่อยอดการพัฒนาบนเทคโนโลยีใหม่อย่าง 5G ที่ก้าวหน้าและทันสมัยไปอีกขั้น”

ยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าองค์กร เอไอเอส กล่าวว่า “วันนี้เอไอเอส ขอขอบพระคุณที่ได้รับความไว้วางใจจากการท่าอากาศยานอู่ตะเภาฯ ให้เราได้ร่วมพัฒนาโซลูชันส์ Smart Airport Terminal มาตั้งแต่ปี 2561 ได้เปิดให้บริการดิจิทัลไปแล้ว 2 ระบบดังกล่าว วันนี้เอไอเอสมีความพร้อมในการเป็นผู้ร่วมพัฒนาโซลูชัน Smart Airport Terminal ร่วมกับภาครัฐและพันธมิตร ด้วยศักยภาพความพร้อมด้านเทคโนโลยีดิจิทัล และเครือข่าย 5G ที่กำลังจะเกิดขึ้น รวมถึงบุคลากรที่มีเชี่ยวชาญ ในอนาคตเมื่อ 5G มาถึง เราพร้อมรองรับการร่วมพัฒนาและต่อยอดดิจิทัลโซลูชันใหม่ๆ สำหรับธุรกิจสนามบิน โดยหวังว่าจะเป็นโครงการต้นแบบ 5G เพื่อภาคอุตสาหกรรมการบินต่อไป”

COMMENTS