ภายในงาน Tokyo Motor Show 2019 โดยเริ่มตั้งแต่ 23 ตุลาคม ถึง 4 พฤศจิกายน 2562 เฉพาะบูธ NTT Docomo ซึ่งนำเทคโนโลยี 5G มาจัดแสดงในรูปแบบ "การสื่อสาร x รถยนต์" ซึ่งเป็นแนวคิดใหม่ของ NTT DOCOMO

โดยทาง NTT DOCOMO ได้นำรถยนต์ในอนาคตมาจัดแสดง ภายในงาน ซึ่งสามารถรับส่ง VDO คุณภาพสูง ผ่านโครงข่ายที่มีความจุสูง และต้องส่งคลื่นสัญญานผ่านกระจกได้อย่างง่ายดาย โดยมีค่าความแฝงทางด้านเวลาต่ำ

โดยผู้ขับขี่จะไม่ขาดการติดต่อกับรถยนต์ไร้คนขับอย่างแน่นอน ผ่านศูนย์ R & D ของ Docomo ในเมือง Yokosuk ด้วยการขับขี่ผ่านเทคโนโลยีการทำงานระยะไกลของ Valeo“ Valeo Drive4U Remote”

นอกจากนี้ยังเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่อย่าง docomo in Car Connect ที่สามารถเชื่อมต่อเทคโนโลยีระหว่าง 4G LTE กับ 5G ได้อย่างถูกต้องแม่นยำ รองรับความจุโครงข่ายการสื่อสารขนาดใหญ่ โดยเมนูนี้ถูกนำไปติดตั้งกับรถยนต์ Mazda เป็นที่เรียบร้อย ผ่านเมนู "Cyber Navi"

นอกจากนี้ภายในรถยนต์สามารถแปลงสัญญาณ 5G เป็น Wi-Fi เพื่อให้อุปกรณ์ การสื่อสารกับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ฯลฯ สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง ไม่มีข้อจำกัดทางด้านการสื่อสาร

เหนือชั้นกว่านั้น รถยนต์ที่นำมาจัดแสดงนั้นนำเทคโนโลยี eSIM ฝังเอาไว้ในห้องโดยสารรถยนต์ ซึ่งเป็นเทคนิคเดียวกับที่บรรจุไว้ใน iPhone และ Google Pixel สามารถสั่งการเปลี่ยนเบอร์โทรหรือผู้ให้บริการได้ในระยะไกล ส่งผลดีต่อการเชื่อมต่อบริการการบำรุงรักษาและการจัดหาข้อมูลการนำทาง

โดยตัว eSIM สามารถแบ่งประเภทรายละเอียดทั้ง "Telematics eSIM" และ "Consumer eSIM" ซึ่ง NTT DOCOMO จะเน้นไปที่ "Consumer eSIM" ช่วยให้ผู้ให้บริการสามารถให้บริการทั่วไปเชื่อมต่อบริการสัญญาณรถยนต์

เทคโนโลยีที่รองรับการสื่อสาร 5G ที่เสถียรในรถยนต์ NTT DOCOMO ได้ติดตั้งเสาอากาศชื่อ "เสาอากาศแก้ว" ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ร่วมกับ AGC ในการพัฒนาระบบดังกล่าว ทำให้กระจายคลื่นสัญญาณได้กว้างกว่าเดิม โดยเฉพาะคลื่นความถี่ 28 GHz


ข้อมูล
news.goo.ne.jp sbbit headlines.yahoo